xs
xsm
sm
md
lg

“จีทีเอช” แตกไลน์จอเงิน ลุยขายเอง-คอนเสิร์ต-ละครเวที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จีทีเอช” ติดลมบน แบรนดิ้งตรึงใจคนไทย ฉลองครบ 7 ปีแตกไลน์ธุรกิจใหม่ จับมือเซเว่นฯ มุ่งขายเอง พร้อมโครงการใหญ่ คอนเสิร์ต ละครเวทีปลายปีนี้ มั่นใจฟันรายได้ร่วม 600 ล้านบาท เติบโต 20%

นายวิสูตร พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีทีเอช จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่จีทีเอชครบรอบ 7 ปี ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแบรนด์จีทีเอชเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และมีกลุ่มแฟนคลับหลากหลายทั้งกลุ่มเด็ก วัยทำงาน และครอบครัว ดังนั้น แผนการดำเนินงานในปีนี้จึงได้เพิ่มโครงการพิเศษฉลอง 7 ปี ประเด็นสำคัญเพื่อแตกไลน์สู่ธุรกิจใหม่ๆ ด้วย
โดยโครงการพิเศษนั้นจะประกอบด้วย ละครเวทีแนวคอมเมดี, คอนเสิร์ตวาไรตีโชว์, ช่องPlay Channel, ดิจิตอล กับ แอฟ GTH, ภาพยนตร์ รัก 7 ปีดี 7 หน, เมอร์ชันไดซ์ ที่มีการเปิดชอปไป 2 แห่ง คือ ที่ซานโตรินี ปาร์ก ชะอำ และแอปพลิกา เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า และการร่วมมือกับคู่ค้า คือร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ในการรุกจำหน่ายดีวีดีภาพยนตร์เองในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ รวมถึงเมอร์ชันไดซ์ต่างๆ ช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ด้วย

“การรุกจัดจำหน่ายซีดีและดีวีดีภาพยนตร์เองนั้น จากเดิมที่ผ่านมาได้ให้ที่อื่นดูแล แต่ตั้งแต่ปีก่อนที่ผ่านมาได้ลองนำมาจำหน่ายเอง เริ่มจากเรื่อง ซัคซีส ห่วยขั้นเทพ พบว่าประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก ที่สำคัญปีนี้ถือเป็นปีฉลอง 7 ปีของจีทีเอช จึงได้รวบรวมภาพยนตร์ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ หนังรัก, หนังผี และตลก ออกมาอย่างละ 7 เรื่อง จัดทำเป็นดีวีดีจำหน่ายที่ร้านเซเว่นฯ ในเดือน ก.คนี้ ในราคา 159 บาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และหลังจากนี้ร้านเซเว่นฯ จะเป็นช่องทางขายที่สำคัญของจีทีเอชในอนาคต ทั้งการจำหน่ายหนังและเมอร์ชันไดซ์อื่นๆ ตามมา”
 
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพยนตร์ปีนี้มีเพียง 3 เรื่อง งบการลงทุนรวมราว 70-80 ล้านบาท โดยเฉพาะเรื่องรัก 7 ปีดี 7 หน ใช้งบมากสุดราว 50 ล้านบาท เพราะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่สำหรับฉลอง 7 ปีจีทีเอชด้วย ขณะที่งบลงทุนในโครงการต่างๆ รวมกัน รวมแล้วอีกกว่า 50 ล้านบาท คือ ละครเวที 30 ล้านบาท คอนเสิร์ต 10 ล้านบาท และเปิดร้านอีก 10 ล้านบาท มั่นใจว่าถึงสิ้นปีบริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%  

นายวิสูตรกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยนั้น 5 เดือนที่ผ่านมาทำได้ราว 444 ล้านบาท ตกลงไปกว่า 39% ส่วนสำคัญมาจากหน้าหนังที่ไม่ค่อยทำเงิน แต่ในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หรือทั้งปีน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือราว 1,300 ล้านบาท คิดเป็น 33-34% เทียบกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวม ขณะที่ภาพยนตร์ต่างประเทศปีนี้ดีมาก จะเห็นได้ว่ามีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายตลอดปี
กำลังโหลดความคิดเห็น