“คนกรุง” เชื่อมั่น ศก.ลดลง ผลงานของ “รบ.ปู” ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ส.การตลาดฯ เผยผลสำรวจ “คนกรุง” เชื่อมั่นเศรษฐกิจลดลง เพราะผลงานของ “รัฐบาลปู” ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง “สินค้า-น้ำมัน” ยังมีราคาแพง คุณภาพชีวิตเริ่มตกต่ำเมื่อเทียบกับคนชนบท ขาดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่ความแตกแยกเริ่มรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาลดันทุรังมุ่งหน้าทำแต่เรื่องกฎหมายปรองดอง

น.ส.วิริยา วรกิตติคุณ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการวิจัย ThaiView ความเห็นของคนกรุงเทพฯ จำนวน 400 คน ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-17 เมษายน 2555 โดยพบว่าความเชื่อมั่นของคนกรุงเทพฯ ต่อสภาวะเศรษฐกิจลดลงอยู่ที่ร้อยละ 39 จากร้อยละ 44 จากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 หลังจากที่รัฐบาลบริหารประเทศมา 6 เดือน

สำหรับสาเหตุที่ระดับความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากผลงานรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และคนกรุงเทพฯ มีความกังวลราคาสินค้า ราคาพลังงานแพงถึงร้อยละ 32 รองลงมาคือ ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำร้อยละ 18 ส่วนระดับความสุข ปรากฏว่าคนกรุงเทพฯ มีระดับความสุขใกล้เคียงกับการสำรวจครั้งก่อน ในทางตรงกันข้าม สาเหตุที่ทำให้ไม่มีความสุข ร้อยละ 42 เนื่องจากรายได้ไม่พอกับรายจ่าย และร้อยละ 29 มาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ การวิจัยยังพบอีกว่าผลงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันไม่แตกต่างจากผลงานของรัฐบาลชุดที่แล้ว ยกเว้นการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งร้อยละ 60 รู้สึกว่ารัฐบาลทำได้ดีกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ส่วนด้านเศรษฐกิจ คนกรุงเทพฯ เห็นว่าความเป็นอยู่ของประชาชนในชนบทดีขึ้น แต่ความเป็นอยู่ของประชาชนในเมืองไม่ดีขึ้น ส่วนสิ่งที่คนกรุงเทพฯ เชื่อว่าแย่ลง ได้แก่ ความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน การแก้ปัญหาคอร์รัปชัน และความปรองดองในสังคม

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 51 ไม่รู้เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) มีร้อยละ 49 ที่เคยได้ยิน และส่วนใหญ่รู้ว่าเป็นความร่วมมือทางการค้า โดยกลุ่มที่รู้เรื่องน้อยอยู่ในอายุระหว่าง 25-49 ปี และเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำ คนกรุงเทพฯ เชื่อว่าการเกิดเออีซีทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ลดการขัดแย้งด้านชายแดน และจะมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี

ส่วนข้อเสีย เกิดความเสียเปรียบด้านแรงงานไทย คนไทยจะมีปัญหาการว่างงานมากขึ้นจากประเทศกลุ่มอาเซียนมาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น ปัญหาสมองไหลมากขึ้น รวมทั้งสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น ซึ่งผลสำรวจยังเห็นด้วยว่าความพร้อมของไทยในการเป็นผู้นำอาเซียนยังต่ำ เพราะปัญหาด้านเสถียรภาพทางการเมืองเป็นปัญหาสำคัญ รวมทั้งปัญหาคอร์รัปชันที่ลดความน่าเชื่อถือของชาวต่างชาติ โดยรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมทั้งระดับบุคคลและระดับรัฐบาลเพื่อรับการเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

น.ส.วิริยากล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสนใจเป็นลำดับแรก คือ แก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และค่าครองชีพของประชาชน และลดความรุนแรงความขัดแย้งทางการเมือง สร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้มั่นคง รวมทั้งเร่งส่งเสริมความรู้เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความเข้าใจง่ายและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น