xs
xsm
sm
md
lg

พีดีเฮ้าส์ปรับทัพรับเออีซี แตกหน่อ 11 บริษัท+20 แฟรนไชส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอสใหญ่พีดีเฮ้าส์ฯ เดินหน้าตามแผนรองรับการเปิดเออีซีในปี 58 เผย 2 ปีเศษปรับทัพธุรกิจลงตัว วางยุทธศาสตร์แตกหน่อ ปทุมดีไซน์ฯ จากหนึ่งเดียวกลายเป็น 11 บริษัทบวก 20 แฟรนไชส์ ลุยเปิดสาขาหวังขยายฐานลูกค้าและตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ มั่นใจเต็ม 100% พร้อมรับและรุกขยายตลาดรับสร้างบ้านอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า ชี้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ปรับตัว หวั่นเปิดเออีซีรายกลางรายเล็กสูญพันธุ์

นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการปรับตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการเปิดเสรีทางการค้า ภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี (Asian Economic Community: AEC) ในปี 2558 จากเดิมดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านโดย ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป บริษัทเดียว แต่มาปี 2555 นี้มีการแตกตัวออกเป็น 11 บริษัท โดยอยู่ภายใต้การดำเนินกิจการของ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจรับสร้างบ้าน 2. ธุรกิจบริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ และ 3. ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง

“เรามองว่าการสวอปหุ้นเป็นแนวทางที่น่าจะทำให้เราเพิ่มสาขาได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทที่เพิ่มขึ้นมาก็เกิดจากการสวอปหุ้นในสาขาที่มีผู้ลงทุนถือหุ้นอยู่ โดยเริ่มที่สาขานครราชสีมาที่ทางพีดีเฮ้าส์ให้ผู้ลงทุนถือหุ้น 100% ในสาขาดังกล่าว ขณะที่พีดีเฮ้าส์เข้าไปถือหุ้นในสาขาที่ผู้ลงทุนได้ขยายไว้ ทั้งสาขาขอนแก่น สาขาอุดรธานี ในสัดส่วนเต็ม 100% ส่วนสาขาพิษณุโลกถือเพิ่มเป็น 70% วิธีนี้วินวินทั้งสอง เนื่องจากธุรกิจรับสร้างบ้านอยู่ในช่วงขาขึ้น และที่สำคัญ การสวอปหุ้นในแต่ละบริษัทก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารจัดการ เนื่องจากหากเราปักธงจะเข้าตลาดหุ้นแล้ว เรื่องผู้ตรวจสอบบัญชีจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องที่ต้องมาพิจารณาด้วย” นายสิทธิพรกล่าว

ล่าสุดบริษัทฯ ได้ทำการปรับโครงสร้างการบริหารงานและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง พร้อมมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบและบริหารงานทั้ง 11 บริษัทบวก 20 แฟรนไชส์ โดยมีเป้าหมายที่จะมุ่งดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน แบ่งออกเป็น 5 สายงานหลัก ประกอบด้วย สายงานธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Business) สายงานการตลาด (Marketing) สายงานทรัพยากรและบุคคล (Human & Resource) สายงานออกแบบและวิศวกรรม (Engineer & Design) และสายงานมาตรฐานแฟรนไชส์ (Franchise Standard Controller)

“พีดีเฮ้าส์เป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ในแวดวงธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่เตรียมความพร้อมก่อนประเทศไทยจะเข้าสู่เออีซีอย่างเต็มรูปแบบในปี 2558 ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพีดีเฮ้าส์มีการพัฒนาและปรับตัวอย่างโดดเด่น อย่างเช่น การเลือกนำระบบแฟรนไชส์มาต่อยอดธุรกิจ และใช้เป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตเป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดการปรับตัวที่ทันสมัยและแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ จนสามารถผนึกพลังร่วมกับบริษัทรับสร้างบ้านรายเล็กหรือเอสเอ็มอีได้อย่างเข้มแข็ง กระทั่งทำให้พีดีเฮ้าส์ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและมีสาขามากที่สุดในปัจจุบัน”

นายสิทธิพรกล่าวว่า การปรับตัวของบริษัทฯ ที่ผ่านมามั่นใจเกิน 100% ว่าก้าวอย่างมีทิศทางและเดินมาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะการเลือกนำระบบแฟรนไชส์มาใช้พัฒนาและต่อยอดธุรกิจ แม้ว่าในช่วงแรกๆ หลายฝ่ายอาจจะสงสัยและไม่เชื่อว่าเป็นไปได้จริง แต่มาวันนี้ทุกฝ่ายเชื่อและเปลี่ยนความคิดเดิม โดยเฉพาะเมื่อบริษัทฯ ฉายภาพให้เห็นถึงความพร้อมและการปรับตัวรับและรุกเออีซี ในขณะที่ผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีการปรับตัวใดๆ

เตือนรายกลาง-เล็กปรับตัวก่อนสูญพันธุ์

นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า อยากชี้ให้เห็นว่าการปรับตัวของผู้ประกอบการนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุยหรือจัดเวทีสัมมนากันเท่านั้น หากแต่ผู้ประกอบการจะต้องมีการขับเคลื่อนจากแผนงานไปสู่การปฏิบัติจริงแล้ว โดยเฉพาะบริษัทรับสร้างบ้านรายกลางและรายเล็ก เพราะหากยังไม่มีทิศทางการปรับตัวเองที่ชัดเจน เมื่อเข้าสู่เออีซีเต็มรูปแบบจะเสียเปรียบรายใหญ่มาก หรืออาจไม่มีที่ยืนบนเวทีธุรกิจรับสร้างบ้านอีกต่อไป เพราะบนเวทีการแข่งขันใหม่ภายใต้กรอบเออีซี กติกาจะเอื้อเฉพาะรายใหญ่หรือรายที่เข้มแข็งกว่าเท่านั้น บริษัทรับสร้างบ้านรายกลางรายเล็กจึงควรเร่งปรับตัวในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 2 ปี 6 เดือนโดยเร็ว เพื่อสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่จะเกิดขึ้นได้ทัน

นอกจากนี้ การแตกกิจการของกลุ่มธุรกิจพีดีเฮ้าส์ออกเป็น 11 บริษัท และจัดแบ่งเป็น 5 สายงานหลักแล้ว ยังมีบริษัทที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย ด้วยการซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ พร้อมเปิดดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ในปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทรายใหม่เข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์ครบ 20 บริษัท เมื่อรวมกับกลุ่มบริษัทในเครือพีดีเฮ้าส์จะเท่ากับ 31 บริษัท ฉะนั้นย่อมส่งผลให้พีดีเฮ้าส์สามารถขยายฐานลูกค้าหรือเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 50 จังหวัด ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การสร้างฐานตลาดรับสร้างบ้านภายในประเทศให้เข้มแข็ง ก่อนจะขยายสู่ตลาดรับสร้างบ้านอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายรวมในประเทศไว้ 1,400 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น