วันนี้ (24 พ.ค.) ในงานประชุมสมาชิกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว หรือแอตต้า ประธานสมาคมสหภาพการท่องเที่ยวพม่าได้บรรยายเรื่อง “ท่องเที่ยวพม่าปัจจุบันและอนาคต” ซึ่งนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกแอตต้า กล่าวภายหลังการฟังบรรยายว่า ในอีก 3-5 ปีนับจากนี้ไป ประเทศพม่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของประเทศไทย น่ากลัวกว่าประเทศเวียดนาม เพราะเป็นประเทศเปิดใหม่จึงมีความสดใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย และเก่าแก่ ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาซ้ำ ตัดสินใจที่จะเข้าไปเที่ยวชม
ภายหลังรัฐบาลพม่าประกาศเปิดประเทศ ทำให้มีเที่ยวบินตรงจากสายการบินต่างประเทศเปิดเส้นทางตรงไปยังพม่าเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านประเทศไทย ดังนั้น ไทยจะต้องเร่งหาสินค้าและบริการใหม่ๆ ออกมานำเสนอลูกค้าด้วย
***แนะผู้ประกอบการไทยหาช่องทางลงทุน*****
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการคนไทยก็ควรปรับวิกฤตเป็นโอกาส ใช้ช่องว่างที่รัฐบาลพม่า เตรียมเปิดกว้างให้แก่นักลงทุนต่างชาติ จึงควรมองหาช่องทางเข้าไปลงทุนในประเทศพม่า การร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการพม่า เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวให้ไทยเป็นโปรแกรมหนึ่งในแพกเกจท่องเที่ยว
ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาควรเร่งแยกการจัดเก็บสถิตินักเดินทางต่างชาติที่มาประเทศไทย แยกว่าเป็นนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และเยี่ยมญาติ อย่างละเท่าใด เพื่อจะได้รู้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่แท้จริง รวมถึงต้องเร่งศึกษากฎหมายของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้รู้เขารู้เราก่อนตัดสินใจลงทุน
***พม่าปรับตัวเรื่องท่องเที่ยวรับเปิดประเทศ****
นายเมือง เมือง ชเว ประธานสมาคมการท่องเที่ยวสหภาพพม่า กล่าวว่า ขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวของพม่าเตรียมระดมความคิดเพื่อเสนอข้อมูลต่อรัฐบาล เพื่อนำไปจัดทำแผนแม่บทด้านการท่องเที่ยว เพราะรัฐบาลพม่าประกาศชัดเจนแล้วว่าจะให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมนี้ ส่วนกรรมสิทธิ์ถือครองที่ดินจะเสนอที่ 70 ปี โดยเริ่มสัญญาที่ 50 ปี และต่ออีก 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี จากปัจจุบันกำหนดให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้นาน 60 ปี แบ่งเป็นครั้งแรก 30 ปี และต่ออายุ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 ปี
อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 นี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปเที่ยวพม่าแล้ว 816,369 คน ในที่นี้เป็นชาวเอเชีย 259,692 คน และไทยถือเป็นตลาดเอเชียอันดับ 2 รองจากจีนที่เดินทางไปพม่ามากที่สุด โดยอยู่ที่ 61,696 คน ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวพม่ามีโอกาสเติบโตสูง ปีนี้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะขยายตัวสูงถึง 30% .
ขณะที่การลงทุนในประเทศพม่า ไทยก็เป็นอันดับสองรองจากจีน
รวมเม็ดเงินลงทุนที่ 9,568 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 61 บริษัท คิดเป็นส่วนแบ่ง 23.47% ของการลงทุนต่างชาติ สำหรับหมวดธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม จำนวนนักลงทุนคนไทยมี 45 ราย รวมเป็นเงิน 1,064.811 ล้านเหรียญสหรัฐ มีส่วนแบ่ง 2.62% ของนักลงทุนต่างชาติในธุรกิจนี้
ส่วนการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรม จะเสนอต่อรัฐบาลพม่าว่าให้เปิดเฉพาะโรงแรม 3-5 ดาว โดยแบ่งเป็นระดับ 3 ดาวให้ลงทุนแบบร่วมทุน คือต่างชาติถือหุ้นได้ 35-99% ส่วนระดับ 4-5 ดาวให้ต่างชาติลงทุนได้ 100% เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก ส่วนโรงแรมขนาด 1-2 ดาวจะสงวนไว้ให้เป็นการลงทุนของคนท้องถิ่นพม่าเองเท่านั้น
นายเจริญ วังอนานนท์ เลขาแอตต้า กล่าวว่า เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 ในการประชุมสมาชิก แอตต้าจะเชิญตัวแทนภาคการท่องเที่ยวทุกประเทศในอาเซียน ทยอยเข้ามาให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว คราวหน้าจะเชิญตัวแทนจากประเทศอินโดนีเซีย