“กูลิโกะ” ฮึดสู้ ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาทเร่งฟื้นฟูโรงงานที่บางกะดีหลังน้ำท่วมซัดพังทั้งหมด ทยอยผลิตได้ 2 รายการ พร้อมปรับราคาขึ้นอีก 20% มั่นใจกลางปีหน้าโรงงานผลิตสินค้าได้ 100% แน่นอน ยืนยันไม่ย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น
นายยิโระ วาตะบิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กูลิโกะ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องใช้งบลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อฟื้นฟูโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ปทุมธานี เพื่อให้กลับมาดำเนินการผลิตได้เหมือนเดิมหลังจากที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมโรงงานทั้งหมดเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังปีหน้า (ปี 2556)
“บริษัทฯ ยังมั่นใจฐานการลงทุนในไทยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หลังจากที่ตั้งโรงงานผลิตในไทยมากว่า 42 ปีแล้ว จากโรงงานแห่งแรกที่รังสิตก่อนจะย้ายมาที่บางกะดี เนื่องจากคนไทยยังให้การตอบรับกับกูลิโกะอย่างดี รวมทั้งมีความมั่นใจในแผนการป้องกันน้ำท่วมของทางนิคมฯ บางกะดี และรัฐบาล แม้ว่าจะอยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีภัยธรรมชาติเหมือนกัน”
โรงงานดังกล่าวนี้เดิมเป็นฐานผลิตที่สำคัญของกูลิโกะที่ส่งสินค้าไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 30% ส่วนอีก 70% ป้อนตลาดในประเทศไทย โดยในช่วงที่ไม่สามารถผลิตสินค้าได้นั้น ต้องนำเข้าสินค้ามาจากทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้ในบางรายการแล้ว ล่าสุดเริ่มผลิตในกลุ่มบิสกิตก่อน คือ กูลิโกะรสช็อกโกแลต และรสสตรอเบอร์รีเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ และคาดว่าจะเริ่มวางสินค้าที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ในสัปดาห์นี้ ส่วนสินค้าอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มทยอยผลิตได้ตามมา เช่น เพรทซ์ (Pretz) ผลิตได้ประมาณเดือนกันยายนปีนี้ ส่วนกูลิโกะรสนมและรสช็อกโกบานานาจะผลิตได้ในเดือนตุลาคมนี้ ผลิตภัณฑ์โคลลอนผลิตได้เดือนพฤศจิกายน และผลิตภัณฑ์แอลฟี (ALPIE) ผลิตได้สิ้นปีนี้ และคาดว่ากลางปีหน้าจะสามารถผลิตได้ครบ 100% โดยจะเลิกทยอยนำเข้ารายการสินค้าที่สามารถผลิตได้แล้ว
สำหรับสินค้าที่เริ่มผลิตได้แล้วคือ กูลิโกะรสช็อกโกแลตอและรสสตรอเบอร์รี บริษัทฯ ได้ปรับราคาจำหน่ายขึ้นอีก 3 บาท จากเดิมรสช็อกโกแลตขนาด 47 กรัม และรสสตรอเบอร์รีขนาด 45 กรัม ราคา 15 บาทเป็น 18 บาท หรือปรับราคาขึ้นอีก 20% หลังจากที่ไม่ได้ปรับราคามานานกว่า 7 ปีแล้ว เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ค่าจ้างแรงงาน ส่วนสินค้าอื่นที่จะผลิตได้ตามมาในภายหลังนั้น ยังไม่สรุปว่าจะมีการปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่
นายยิโระกล่าวด้วยว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ ปีที่แล้ว ที่ทำได้เพียง 85% จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ หรือสูญรายได้ไปประมาณ 15% ขณะที่ปีก่อนหน้านี้คือปี 2553 ทำรายได้ประมาณ 2,400 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าหรือปี 2556 จะสามารถทำรายได้กลับมาสู่ 2,400 ล้านบาทได้
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดรายการ “ป๊อกกี้ สตาร์ คอนเทสต์” เพื่อค้นหาสาวสวย บุคลิกดี อายุระหว่าง 15-22 ปี กล้าแสดงออก จำนวน 3 คนมาร่วมถ่ายทำหนังโฆษณากับ “โม-มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของป๊อกกี้ และมีโอกาสเข้าสู่วงการแสดง รวมทั้งรับเงินรางวัลรวมกว่า 3 แสนบาท หารายละเอียดได้ที่ www.pockystarscontest.com
นายยิโระ วาตะบิชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กูลิโกะ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องใช้งบลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อฟื้นฟูโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ปทุมธานี เพื่อให้กลับมาดำเนินการผลิตได้เหมือนเดิมหลังจากที่ต้องประสบปัญหาน้ำท่วมโรงงานทั้งหมดเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังปีหน้า (ปี 2556)
“บริษัทฯ ยังมั่นใจฐานการลงทุนในไทยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หลังจากที่ตั้งโรงงานผลิตในไทยมากว่า 42 ปีแล้ว จากโรงงานแห่งแรกที่รังสิตก่อนจะย้ายมาที่บางกะดี เนื่องจากคนไทยยังให้การตอบรับกับกูลิโกะอย่างดี รวมทั้งมีความมั่นใจในแผนการป้องกันน้ำท่วมของทางนิคมฯ บางกะดี และรัฐบาล แม้ว่าจะอยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีภัยธรรมชาติเหมือนกัน”
โรงงานดังกล่าวนี้เดิมเป็นฐานผลิตที่สำคัญของกูลิโกะที่ส่งสินค้าไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 30% ส่วนอีก 70% ป้อนตลาดในประเทศไทย โดยในช่วงที่ไม่สามารถผลิตสินค้าได้นั้น ต้องนำเข้าสินค้ามาจากทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้ในบางรายการแล้ว ล่าสุดเริ่มผลิตในกลุ่มบิสกิตก่อน คือ กูลิโกะรสช็อกโกแลต และรสสตรอเบอร์รีเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ และคาดว่าจะเริ่มวางสินค้าที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ในสัปดาห์นี้ ส่วนสินค้าอื่นๆ คาดว่าจะเริ่มทยอยผลิตได้ตามมา เช่น เพรทซ์ (Pretz) ผลิตได้ประมาณเดือนกันยายนปีนี้ ส่วนกูลิโกะรสนมและรสช็อกโกบานานาจะผลิตได้ในเดือนตุลาคมนี้ ผลิตภัณฑ์โคลลอนผลิตได้เดือนพฤศจิกายน และผลิตภัณฑ์แอลฟี (ALPIE) ผลิตได้สิ้นปีนี้ และคาดว่ากลางปีหน้าจะสามารถผลิตได้ครบ 100% โดยจะเลิกทยอยนำเข้ารายการสินค้าที่สามารถผลิตได้แล้ว
สำหรับสินค้าที่เริ่มผลิตได้แล้วคือ กูลิโกะรสช็อกโกแลตอและรสสตรอเบอร์รี บริษัทฯ ได้ปรับราคาจำหน่ายขึ้นอีก 3 บาท จากเดิมรสช็อกโกแลตขนาด 47 กรัม และรสสตรอเบอร์รีขนาด 45 กรัม ราคา 15 บาทเป็น 18 บาท หรือปรับราคาขึ้นอีก 20% หลังจากที่ไม่ได้ปรับราคามานานกว่า 7 ปีแล้ว เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ค่าจ้างแรงงาน ส่วนสินค้าอื่นที่จะผลิตได้ตามมาในภายหลังนั้น ยังไม่สรุปว่าจะมีการปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่
นายยิโระกล่าวด้วยว่า จากปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ ปีที่แล้ว ที่ทำได้เพียง 85% จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ หรือสูญรายได้ไปประมาณ 15% ขณะที่ปีก่อนหน้านี้คือปี 2553 ทำรายได้ประมาณ 2,400 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้าหรือปี 2556 จะสามารถทำรายได้กลับมาสู่ 2,400 ล้านบาทได้
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดรายการ “ป๊อกกี้ สตาร์ คอนเทสต์” เพื่อค้นหาสาวสวย บุคลิกดี อายุระหว่าง 15-22 ปี กล้าแสดงออก จำนวน 3 คนมาร่วมถ่ายทำหนังโฆษณากับ “โม-มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ” พรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดของป๊อกกี้ และมีโอกาสเข้าสู่วงการแสดง รวมทั้งรับเงินรางวัลรวมกว่า 3 แสนบาท หารายละเอียดได้ที่ www.pockystarscontest.com