xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จับมือโลตัสจัดเทศกาลผลไม้ไทยในอังกฤษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ภูมิ” จับมือ “โลตัส” เปิดเทศกาลผลไม้ไทยยิ่งใหญ่ 500 สาขาทั่วอังกฤษ พร้อมเหินฟ้าร่วมงานโปรโมตหนัง-บันเทิงไทยสู่ยุโรปในเทศกาลเมืองคานส์ ฝรั่งเศส

นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเดินทางไปอังกฤษและฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 16-21 พฤษภาคม 2555 ว่า ในส่วนของประเทศอังกฤษ กรมส่งเสริมการส่งออกได้ร่วมกับห้างเทสโก้ โลตัสจัดกิจกรรมการขายผลไม้ไทยในห้างจำนวน 500 สาขาเพื่อผลักดันการนำเข้าผลไม้จากไทยมาจำหน่ายในระหว่างจัดกิจกรรมครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์เร่งรัดส่งออกสินค้าผลไม้ให้เป็นที่รู้จักและจดจำในกลุ่มผู้บริโภคในตลาดอังกฤษ ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับห้างเทสโก้ที่ร่วมโครงการ ซึ่งจะมีผลทำให้มีการนำเข้าผลไม้ไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผลผลิตผลไม้ไทยกำลังออกสู่ตลาด (เม.ย.-พ.ค.) รวมทั้งจะเข้าพบและหารือกับผู้บริหารโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดง เบลอ (Le Cordon Bleu) เพื่อหารือเกี่ยวกับการบรรจุหลักสูตรอาหารไทยลงในหลักสูตรการเรียนการสอนของสถาบันฯ ด้วย

นอกจากนี้ จะเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นงานภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 64 และกรมฯ ได้เข้าร่วมงานเป็นครั้งที่ 8 ภายในงานนอกจากจะมีการออกบูท ฉายภาพยนตร์แล้ว ยังเปิดเจรจาทางธุรกิจ เช่น การเจรจาการค้า การเข้านำเสนองานและประมูล คอนเทนต์ การสัมมนาศักยภาพและแนวโน้มธุรกิจ การนำเสนอภาพยนตร์เพื่อการซื้อขาย เป็นต้น

“ในคืนวันที่ 18 พฤษภาคม กรมฯ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย (งาน Thai Night) โดยมีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เสด็จเป็นองค์ประธานกิจกรรมฯ ซึ่งคาดว่าการจัดงานจะสามารถประชาสัมพันธ์ศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยทั้งในด้าน Pre Production, Production, Post Production ตลอดจนสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่อุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงไทย ซึ่งคาดว่าจะมีนักธุรกิจในวงการบันเทิงสื่อมวลชนฝรั่งเศสและภูมิภาคยุโรปให้ความสนใจในการเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงจะช่วยสร้างความคุ้นเคยและการติดต่อทางธุรกิจต่อไป เชื่อว่าจะทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงของไทยได้รับการพัฒนาให้เป็นที่หนึ่งของเอเชียในอนาคตอันใกล้” นายภูมิกล่าว

สำหรับการเดินทางไปอังกฤษเพื่อขยายการค้าในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการค้าสองประเทศให้เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 390,000 ล้านบาทภายในปี 2558 โดยสคร.กรุงลอนดอนได้เคยร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผัก ผลไม้ และเครื่องปรุงอาหารไทยกับห้างเทสโก้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยครั้งล่าสุดจัดขึ้นในห้างจำนวน 70 สาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18 เมษายน–13 พฤษภาคม 2554 ภายใต้ชื่อ Finest Fruits of Thailand ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าผักและผลไม้ เครื่องปรุงอาหารไทย จากไทยของเทสโก้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเข้าผัก ผลไม้จากไทยช่วงการจัดกิจกรรมมากกว่า 46 ตัน มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านบาท ซึ่งในปี 2554 อังกฤษเป็นตลาดส่งออกสำคัญสินค้ากลุ่มนี้มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

การส่งเสริมการขายครั้งนี้จะมีการจัดกิจกรรมสาธิต แนะนำสินค้าไทย วิธีการรับประทาน จัดให้ชิมผลไม้ ตลอดจนการจัดมุมจำหน่ายผลไม้ไทยราคาพิเศษในห้างเทสโก้ จัดให้มีการแจกจ่ายเอกสารประชาสัมพันธ์ แผ่นพับและเอกสารแนะนำเกี่ยวกับผลไม้ คุณประโยชน์ทางโภชนาการ และวิธีการรับประทานแก่ผู้บริโภคในบริเวณการชิมผลไม้ การประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ และร่วมกับห้างเทสโก้ประชาสัมพันธ์กิจกรรมในหนังสือของห้างฯ แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์และเมนูอาหารไทยเสริมในกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าอาหารไทย สำหรับผัก และผลไม้ที่จะส่งเสริมการขาย ได้แก่ มะม่วง (น้ำดอกไม้ และมหาชนก) ลิ้นจี่ มังคุด ลองกอง และเงาะ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ผักและผลไม้กระป๋อง อาหารประเภท Ready to eat อีกด้วย

“ในปีนี้ทางห้างเทสโก้ได้เสนอให้มีการจัดงานแถลงข่าวร่วมกัน โดยได้เชิญผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารของห้าง และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน จัดให้คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมชมกิจกรรมส่งเสริมการขายผลไม้ไทย ณ ห้างเทสโก้ สาขาในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอน คือสาขา Kensington  และร่วมหารือระหว่างผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์กับผู้บริหารห้างเทสโก้ถึงแนวทางการขยายลู่ทางการค้าระหว่างกันต่อไป” นายภูมิกล่าว

การค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรมีมูลค่าการค้าเฉลี่ยปีละกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในไตรมาสแรกปี 2555 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่ารวม 1,378 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11%เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นการส่งออก 878 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง12% ขณะที่การนำเข้าลดลง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือลดลง 10% โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา(2552-2554) มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 5,004 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 5,566 และ 5,836 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น