“พีเจ้น” รุกตลาดไตรมาสสองต่อเนื่อง ลุยกิจกรรมซีเอสอาร์ โดยร่วมกับโรงพยาบาลรามาธิบดี และนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง เปิดโครงการ “พีเจ้น Experience Together” ให้น้องกลับมายิ้ม มั่นใจช่วยสร้างภาพลักษณ์ และขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน พร้อมตอกย้ำผู้นำตลาดแม่และเด็ก
นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กแบรนด์ “พีเจ้น” เปิดเผยว่า “เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้รุกกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือการแข่งขันที่ดุเดือด เช่น เปิดตัวจุกนม Peristaltic PLUSTM Nipple จุกเสมือนนมมารดา รุ่นพลัส การจัดประกวดภาพถ่ายหนูน้อยพีเจ้น การจัดเวิร์กชอป กิจกรรม CRM โปรโมชัน เป็นต้น โดยในไตรมาสแรกสามารถทำยอดขายได้เติบโตตามเป้าที่วางไว้
บริษัทฯ จึงรุกการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2 นำร่องด้วยกิจกรรมการตลาดเพื่อสังคม (CSR) เป็นหลัก เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผลิตภัณฑ์พีเจ้น นำไปสู่การกระตุ้นยอดขายทางอ้อม และต่อยอดนโยบายการตลาดด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของ “พีเจ้น” มาอย่างยาวนาน
ล่าสุดได้จับมือพันธมิตร โรงพยาบาลรามาธิบดี และนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง เปิดตัว โครงการ “พีเจ้น Experience Together” ให้น้องกลับมายิ้ม กิจกรรมซีเอสอาร์สุดยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “เพราะคุณคือส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้แก่ใครบางคน” โดยนำรายได้ร่วมสมทบทุนเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดให้แก่เด็กปากแหว่งเพดานโหว่กว่า 40 คน เพื่อให้น้องๆ ได้กลับมายิ้มได้กว้างกว่าเดิม และสามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงกับเด็กปกติทั่วไป นอกจากนี้ “พีเจ้น” ยังมอบขวดนมสำหรับเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ให้มูลนิธิรามาธิบดี รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาทอีกด้วย
โดยในปี 2555 นี้บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตโดยรวมไว้ประมาณ 30% บริษัทจึงได้อัดกิจกรรมการตลาดหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ในไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้เติบโตตามเป้าที่วางไว้ ดังนั้น จึงอยากเร่งกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แบรนด์มีความเคลื่อนไหวในตลาดอยู่เสมอ จึงเปิดโครงการเพื่อสังคมขึ้น เพราะปัจจุบันกระแสการทำดีเพื่อสังคมกำลังเป็นที่นิยมทั้งในแวดวงธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค จึงวางกลยุทธ์มุ่งสร้างทัศนคติที่ดีแบบเข้าถึงจิตใจผู้บริโภค สร้างความประทับใจที่มีต่อองค์กร สร้างความใกล้ชิดและเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการสื่อสารกับผู้บริโภคให้ทั่วถึง ที่สำคัญ กระตุ้นยอดขายผ่านการมีส่วนร่วมในการให้ครั้งยิ่งใหญ่ผ่านโครงการนี้อีกด้วย
“เพื่อสนับสนุนโครงการฯ บริษัทได้จัดทำโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบ 360 องศา ทั้ง above the line และ below the line ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครบวงจรผ่านสื่อสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านหนังสือนายอินทร์ เป็นต้น เพื่อสร้างการรับรู้อย่างรวดเร็วที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย คาดว่าโครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในเวลาอันรวดเร็ว โดยเมื่อไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาเรามีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและไม่ยากนักที่จะเติบโตตามเป้าที่วางไว้ของปี 2555 นี้” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสกล่าวทิ้งท้าย