อำมาตย์ “เต้น” ได้ฤกษ์เข็นโครงการ “ถูกทั้งแผ่นดิน” ลั่นเปิดชอปพร้อมกันทั่วประเทศพรุ่งนี้

รมช.เกษตรฯ เปิดตัวโครงการ “ถูกทั้งแผ่นดิน” สินค้าสหกรณ์ ราคายุติธรรม พรุ่งนี้ โดยพื้นที่ “กรุงเทพฯ” นำร่อง 10 สหกรณ์ พร้อมจัดขบวนรถจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ 10 คันตระเวนไปถึงหน้าบ้านทุกชุมชน ส่วนในต่างจังหวัดจัดที่ศาลากลาง และตลาดต่างๆ ตามความเหมาะสม เผยมีสินค้าสหกรณ์หลากหลายให้ชอป ทั้งข้าวสาร นม ไข่ น้ำ ปลา และผลไม้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพงนั้น กระทรวงฯ ได้จัดโครงการ “สหกรณ์ไทยเพื่อคนไทย-ถูกทั้งแผ่นดิน-สินค้าสหกรณ์ ราคายุติธรรม” ขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 พฤษภาคม 2555 นี้

สำหรับกรุงเทพฯ จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า เจเจมอลล์ สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ร้านค้า และสหกรณ์บริการ รวมทั้งสิ้น 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และยังมีขบวนรถจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่รวมทั้งสิ้น 10 คัน ตระเวนตามแหล่งชุมชนที่สำคัญตลอดสัปดาห์ของการรณรงค์ประชาสัมพันธ์

ส่วนต่างจังหวัดจัดขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัด สำนักงานสหกรณ์จังหวัด และตลาดในชุมชน ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณของกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการทั้งสิ้น 8 ล้านบาท

“การนำสินค้าสหกรณ์มาจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าขบวนการสหกรณ์ได้ปฏิบัติตามหลักการของสหกรณ์ คือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการช่วยเหลือสังคม ชุมชนโดยรวม เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข รวมทั้งเปิดตัวสินค้าสหกรณ์ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคโดยทั่วไปอีกด้วย และยังเปิดโอกาสให้สหกรณ์แต่ละแห่งได้เรียนรู้และพัฒนามาตรฐานสินค้าของตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอีกทางหนึ่ง”

ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการในครั้งนี้เป็นการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ตราสินค้าสหกรณ์อีกด้วย จากเดิมที่รู้จักกันเฉพาะข้าวสหกรณ์ ผู้บริโภคจะมีโอกาสทำความรู้จักกับสินค้าชนิดอื่นๆ ของสหกรณ์เพิ่มเติม เช่น นมสหกรณ์ ไข่สหกรณ์ น้ำสหกรณ์ ปลาสหกรณ์ ผลไม้สหกรณ์ เป็นต้น

หลังจากกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ หากผู้บริโภคมีความสนใจที่จะใช้สินค้าสหกรณ์ก็สามารถติดต่อกับสหกรณ์ผู้ผลิตได้โดยตรง ส่วนสหกรณ์ผู้ผลิตเองจะได้มีโอกาสในการเรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภค และสร้างเครือข่ายให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ