กาญจนบุรี - ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่กาญจน์ เรียกประชุมงคลี่คลายคดียิง “นายกเล็กดอนขมิ้น” ดับ เผยแนวทางการสืบสวนไม่ตัดปมอื่นทิ้งแต่ให้น้ำหนักขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ยอมรับมีผู้สมัคร ส.อบจ.แห่ร้องขอกำลังคุ้มครอง ขู่ตำรวจทั้งจังหวัดต้องวางตัวเป็นกลาง หากถูกร้องเรียน ต้องย้าย หากมีหลักฐานเจอวินัยร้ายแรง ยัน 3 อำเภอในพื้นที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ “เมือง-ท่าม่วง-ท่ามะกา” เพราะเป็นอำเภอที่มีผลชี้ขาดการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี นายศุภกิจ สิทธิวิไล นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิงเสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านโดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รองผบช.ภ.7 ได้เรียกประชุมคณะนายตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบด้วย พล.ต.ต.โชต วีระเดชกำแหง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และนายตำรวจหัวหน้าสถานีทุกท้องที่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีทั้ง 21 สถานี
ในที่ประชุมมีการเปิดวีดีโอนำเสนอบรรยายสรุปรายงานเหตุการณ์ และทีมผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กาญจนบุรี และบรรดาสมาชิก อบจ.ของแต่ทีม หลังรับฟังการชี้แจงเป็นที่เรียบร้อย ต่อจากนั้น พล.ต.ท.หาญพล ให้นโยบายการปฏิบัติโดยให้ทุกท้องที่เน้นป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท และการตั้งด่านจุดตรวจจุดสกัดในทุกพื้นที่เพื่อป้องปรามในการลดการก่อเหตุอาชญกรรมในทุกพื้นที่
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคดียิงนายศุภกิจ สิทธิวิไล นายกเทศมนตรีตำบลดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ว่า คดีนี้เราตั้งประเด็นไว้กว้างๆ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งยังมองในเรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น และก็เรื่องผลประโยชน์ ส่วนเรื่องชู้สาว การพนันอะไรคงไม่มี ตอนนี้เราตั้งประเด็นไว้กว้างๆ ยังไม่ตัดเรื่องอะไรทิ้งทั้งหมด
“ส่วนในเรื่องของเบาะแสของคนร้าย ขณะนี้พยานในที่เกิดเหตุยังไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ตอนนี้เหลือพวกวัตถุพยานและการสืบสวนย้อนหลังไป ตั้งต้นจากจุดเกิดเหตุ ก็ยังไม่อยากพูดอะไร แต่ผมคิดว่าคงมีความคืบหน้าเร็วๆ นี้ น่าจะมีข่าวดี ถ้านับได้ก็เรียกว่ามีความคืบหน้าก็คิดว่าน่าจะจับกุมคนร้ายได้ ส่วนเรื่องอาวุธปืนตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิสูจน์หัวกระสุน ซึ่งในศพคนตายเราพบหัวกระสุน ขนาดอะไรยังตอบไม่ได้ครับ กำลังอยู่ที่พิสูจน์หลักฐาน”
ผบช.ภ.7 เปิดเผยต่อว่า สำหรับมาตรการวันนี้ ตนมาประชุมเตรียมความพร้อม ซึ่งทางภูธรจังหวัดกาญจนบุรี โดย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ก็ได้ออกแผน ซึ่งเท่าที่เห็นก็เรียบร้อยดี และก็กำชับให้รัดกุม โดยเน้นให้ตำรวจประพฤติตนและวางตัวเป็นกลางแล้วก็มีการกวาดล้างนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันเลือกตั้ง อบจ.ต้องมีการกวาดล้างอย่างเข้มงวด โดยให้ตำรวจประสานกับทาง กกต.โดยขอความร่วมมือกับทาง กกต.และปฏิบัติตัวให้เป็นกลางก็คิดว่าคงผ่านไปอย่างเรียบร้อย
ส่วนในเรื่องบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ ตอนนี้ทางการข่าวทุกพื้นที่เราได้วางกำลังไว้อย่างเข้มข้นตอนนี้เลย ถ้ามีกลุ่มคนแปลหน้าเข้ามาตำรวจท้องที่จะต้องทราบ ทางจังหวัดจะต้องทราบแล้วก็รายงานไปทางภาค ถ้าทางจังหวัดคิดว่ากำลังไม่พอ เราก็จะส่งชุดสืบสวนลงมาดำเนินการ ก็ขณะนี้ความเคลื่อนไหวเข้ามามี แต่ว่าไม่ใช่บุคคลที่มีหมายจับ เข้ามาในลักษณะมาคุ้มครอง มาขับรถให้มาอะไรอย่างนี้ แต่ว่าอยู่ในสายตาของตำรวจตลอด
พล.ต.ท.หาญพล ได้ตอบเกี่ยวกับมือปืนที่ก่อเหตุว่า ในส่วนมือปืนที่ก่อเหตุว่า เป็นมืออาชีพหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ดูจากบาดแผลก็ยิงเข้าเป้ากระสุนปืน 4 นัด ก็เข้าหมดทั้ง 4 นัด จุดที่เข้ามันเป็นการยิงขณะเคลื่อนไหว คือ ขับรถ ยังตอบไม่ได้ว่ามืออาชีพหรือเปล่า เดี๋ยวได้ตัวก็คงรู้ ส่วนในเรื่องการขอกำลังคุ้มครองขณะนี้ทางเบอร์ 2 ได้มีการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มครอง ตำรวจก็ให้ความร่วมมือตามกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายครับ ใครขอมาก็ให้หมด
ส่วนในเรื่องมีการร้องเรียนว่า ตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง ถ้ามีร้องมาเราก็ดำเนินการทันทีครับ อันดับแรกเราก็ออกนอกพื้นที่ไปก่อนให้หมดหน้าที่ตรงนี้ไปก่อน ถ้าความผิดชัดแจ้งก็ดำเนินการทางวินัยทันที ขณะนี้ยังไม่มี ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทางเบอร์ 2 คนติดตามประกบขณะนี้เรายังไม่ได้รับรายงาน ทางผู้การจังหวัดก็ยังไม่ได้รับรายงาน ถ้ามีก็พร้อมจะดำเนินการให้ในการคุ้มครองอยากฝากไปถึงผู้ที่ใช้ระบบแบบนี้ควรจะเลิกได้แล้ว เพราะถ้าเข้ามากดดันก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
“ส่วนจะมีรายต่อไปหรือไม่ เราก็ยังตอบไม่ได้ แต่ก็เข้มงวดในพื้นที่เต็มที่ ถ้าเป็นเรื่องการเมือง เชื่อว่า ไม่มี คดีนี้เราก็ยังไม่ตัดเรื่องอื่นด้วย อาจจะไม่ใช่การเมืองก็ได้ ส่วนพื้นที่จะได้เสียและมีการเฝ้าระวังมี 3 อำเภอ อ.เมือง อ.ท่าม่วง และ อ.ท่ามะกา ที่คะแนนเยอะๆ จะแพ้ชนะกันก็ 3 อำเภอนี้”
ส่วน นางวงศ์ สิทธิวิไล ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ดอนขมิ้น เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจที่เหตุร้ายมาเกิดกับสามีทั้งที่สามีเป็นคนที่ช่วยเหลือสังคมตลอดเวลา เขาทุ่มเทช่วยชาวบ้าน ใครมาหาให้ช่วย ช่วยได้เขาช่วยทันที ช่วยไม่ได้ก็พยายามหาทางช่วย เขาทำงานออกจากบ้านแต่เช้า บางวันกลับมืด บางคืนกลับดึก ทุ่มเททำงานรับใช้ประชาชน ตนอยากขอให้ตำรวจทุ่มเทหาตัวคมผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
ส่วนบรรยากาศการตั้งสวดศพหลังเกิดเหตุนายกเทศมนตรีตำบลดอนขมิ้น ถูกยิงเสียชีวิต ชาวบ้านที่รู้จักผู้ตายได้เดินทางไปร่วมงานศพที่ตั้งที่บ้านของนายศุภกิจ สิทธิวิไล ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 99/9 หมู่ 5 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กว่า 2 พันคน ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่าเพื่อร่วมพิธีรดน้ำศพ ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มาร่วมงาน และเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากที่ผ่านมานายศุภกิจ ผู้ตายเป็นคนดี แม้จะเป็นคนพูดจาโผงผาง แต่ก็เป็นคนพูดจริง ทำจริง ทำงานช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด เมื่อมาถูกยิงเสียชีวิตทำให้ชาวบ้านต่างรู้สึกเสียใจ เพราะต้องขาดผู้นำที่ดี
