ASTVผู้จัดการออนไลน์ - อากาศร้อนตับแตกดันตลาดชาเขียวโตพรวด 30% ชี้ครึ่งปีหลังยังแข่งเดือด เผยส่วนแบ่งตลาดแต่ละแบรนด์เปลี่ยนแปลง ด้านเพียวริคุอัด 80 ล้านบาท เปิดศึกต่อหน้าร้อนส่งแคมเปญ ชิงไอโฟนชิงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กระตุ้นตลาดอีกรอบ
นางสาวสุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติตอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจชาขาวเพียวริคุ เปิดเผยว่า ปีนี้คาดการณ์กันว่าตลาดชาเขียวโดยรวมจะเติบโตมากถึง 30% หรือมีมูลค่ากว่า 12,300 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีมูลค่า 9,480 ล้านบาท เนื่องจากว่าประเทศไทยปีนี้อากาศร้อนมาก โดยสังเกตจากภาพรวมตลาดชาเขียวในช่วงไตรมาสแรกนี้มีอัตราเติบโต 40% อีกทั้งผู้ประกอบการรายเก่าก็ต้องรีบทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย จากผลกระทบที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดชาเขียวเพิ่มขี้นด้วย
“ในไตรมาสที่สองนึ้ประเมินกันว่าตลาดรวมชาเขียวจะเติบโตขึ้นอีกไม่ต่ำากว่า 40% เพราะยังอยู่ในช่วงรอยต่อของการทำตลาดและกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายและแย่งแชร์กัน ส่วนในครึ่งปีหลังคาดว่าการทำตลาดของแต่ละรายจะยังคงรุนแรงและมีการทำโปรโมชันลดแลกแจกแถมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ต้องดูปัจจัยเรื่องอากาศด้วย ว่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการออกมาทำแคมเปญมากน้อยแค่ไหน” นางสาวสุวรรณดีกล่าว
การแข่งขันที่รุนแรงนี้เองส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างน่าสนใจ กล่าวคือ โออิชิ ที่เป็นผู้นำตลาด ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดเหลือ 43% จากเดิมมี 57% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาคูซ่า ที่เป็นชาเขียวอัดลมในเครือของโออิชิเองที่ขายดีและเข้ามาแย่งส่วนแบ่งโออิชิไป โดยชาคูซ่ามีแชร์เท่ากับ 6.7% ส่วนอันดับสองคือ เพียวริคุ มีส่วนแบ่ง 20% เพิ่มจาก 17% เมื่อปีที่แล้ว และอันดับ 3 ยังคงเป็นของอิชิตัน ซึ่งส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็น 19% จาก 17% ในปีที่แล้ว
นางสาวสุวรรณดีกล่าวต่อว่า แผนการดำเนินธุรกิจของเพียวริคุในปีนี้ เตรียมที่จะขยายกำลังการผลิตเพียวริคุเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโต เพราะกำลังการผลิตปัจจุบันเริ่มที่จะไม่เพียงพอแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้สั่งซื้อเครื่องจักรไปแล้ว คาดว่าในช่วงปลายปีจะสามารถติดตั้งแล้วเสร็จ
ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบ 80 ล้านบาทเพื่อจัดทำแคมเปญ “เพียวริคุ วันนี้พลิกฝา พรุ่งนี้เป็นป๋า ปี2 ชิงไอโฟน ชิงร้านเซเว่นอีเลฟเว่น” เป็นปีที่ 2 เนื่องจากทุกครั้งที่บริษัทได้จัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายพบว่าสามารถกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติ 10-20% และคาดว่าครั้งนี้จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-20% เช่นกัน เนื่องจากปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มรางวัลใหญ่ให้มีจำนวนมากขึ้น จากเดิมรางวัลที่นำมาแจกทุกวันจะเป็นสินค้าบริโภค แต่ว่าปีนี้บริษัทฯ ได้นำไอโฟนมาแจกทุกวัน ขณะที่รางวัลใหญ่เป็นธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น รวมกว่า 30,101 รางวัล ซึ่งหลังจบแคมเปญดังกล่าวในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้คาดว่าจะมีผู้บริโภคเข้าร่วมแคมเปญส่งรหัสใต้ฝาจาก 5 ล้านรหัสในปีก่อนเป็น 6 ล้านรหัสในปีนี้
“บริษัทฯ คาดว่าหลังจากจบไตรมาส 2 เพียวริคุน่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% เท่ากับไตรมาสแรก โดยที่ทั้งปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 30% และส่วนแบ่งการตลาดปีนี้น่าจะมีประมาณ 24%” นางสาวสุวรรณดีกล่าว