นักวิชาการและผู้ค้าแอลพีจีค้านแนวคิดการขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนแต่ตรึงราคาเฉพาะถัง 4 กก.หวั่นประชาชนแห่กลับมาใช้ถังเล็กสร้างปัญหาเพิ่มอีก แนะให้ขึ้นทั้งระบบแต่ใช้มาตรการดูแลผลกระทบครัวเรือนวิธีอื่น เช่น แจกคูปอง หรืออื่นๆ แทน
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงานและอดีตผู้บริหาร บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยถึงแนวทางการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ภาคครัวเรือนที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) อยู่ระหว่างการศึกษาโดยเบื้องต้นมีแนวคิดที่จะตรึงราคาเฉพาะถังขนาด 4 กิโลกรัม (กก.) ว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวเพราะไม่ตอบโจทย์ของการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง แต่ตรงกันข้ามอาจสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นเพราะประชาชนจะหันไปใช้ถัง 4 กก.แทนและอาจนำมาซึ่งการขาดแคลนถังและการดูแลความปลอดภัย ดังนั้นควรทยอยปรับขึ้นเป็นการทั่วไปทั้งหมดแล้วหามาตรการอื่นที่จะบรรเทาผลกระทบต่อภาคครัวเรือนเช่น คูปอง เป็นต้น
“ถัง 4 กก.นั้นกลุ่มที่ใช้จริงๆ มีเพียงกว่า 2 ล้านใบทั่วประเทศหรือคิดราว 10% แต่ที่นิยมในครัวเรือนจริงๆ คือถัง 15 กก.ที่ใช้มากถึงกว่า 50% ดังนั้นตรึงราคาเฉพาะถัง 4 กก.ก็เท่ากับ 90% ก็คือขึ้นราคาแอลพีจีครัวเรือนนั่นเอง แต่ได้ผลในแง่จิตวิทยาว่าได้ช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายการเมืองแล้ว” นายมนูญกล่าว
ทั้งนี้ ราคาแอลพีจีตลาดโลกล่าสุดเริ่มลดลงจากเดิมเฉลี่ย 1,200 เหรียญสหรัฐต่อตันมาอยู่ที่ 900 กว่าเหรียญต่อตัน แต่กองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงยังคงมีฐานะติดลบสุทธิกว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาระในการชดเชยแอลพีจีนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งที่สุดแล้วรัฐบาลจำเป็นจะต้องทยอยปรับราคาแอลพีจีครัวเรือนในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ราคานำเข้าแอลเอ็นจี (ก๊าซธรรมชาติเหลว) จากต่างประเทศที่ส่วนหนึ่งจะต้องนำมาสผมกับก๊าซฯ ในอ่าวไทยเพื่อผลิตไฟฟ้านั้นขณะนี้ยังคงมีทิศทางราคาที่สูงอยู่เฉลี่ย 16 เหรียญต่อล้านบีทียู ขณะที่ราคาอ่าวไทยเฉลี่ยเพียง 10 เหรียญต่อล้านบีทียูเท่านั้น เนื่องจากญี่ปุ่นยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าในการทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิ ดังนั้น แนวโน้มราคาแอลเอ็นจีจะยังคงแพงไปอีก 4-5 ปี แต่ระยะยาวจากนั้นจะต่ำลงเพราะสหรัฐอเมริกากำลังลงทุนก่อสร้างท่าเรือเพื่อนำแอลเอ็นจีในประเทศออกจำหน่ายยังตลาดโลก
นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าแอลพีจี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายตรึงแอลพีจีครัวเรือนถึงสิ้นปี การปรับขึ้นนั้นเห็นด้วยเพื่อลดภาระการชดเชยสะสมที่อนาคตอาจสร้างปัญหาหนัก แต่ไม่เห็นด้วยที่รัฐจะตรึงราคาแอลพีจีถัง 4 กก.เพราะถังดังกล่าวเป็นกลุ่มคนใช้ชั่วคราว หรือเรียกว่าเป็นถังสำรองไม่ได้ตอบโจทย์การช่วยเหลืออย่างแท้จริง จึงควรจะขึ้นทั้งระบบแล้วหามาตรการมาดูแลค่าครองชีพ เช่น คูปอง ฯลฯ
“ผมคิดว่ารัฐกำลังหาทางออกเพื่อจะปรับราคาขายแต่ขณะเดียวกันได้ช่วยเหลือประชาชนแล้วเพราะถ้าขึ้นทั้งระบบจะชี้แจงประชาชนไม่ได้ ซึ่งผมเองเห็นด้วยนะที่ควรจะปรับขึ้นบ้างให้สะท้อนต้นทุนดีกว่าปล่อยให้มีปัญหาแล้วขาดแคลนในอนาคต แต่ควรขึ้นทั้งระบบ” นายชิษณุพงศ์กล่าว