ปรับโฉม โรสการ์เด้น 50 ปี สู่ “สามพราน ริเวอร์ไซด์” ในมือผู้บริหารรุ่นที่ 3 ดันองค์กรทันสมัยตอบไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวและรองรับธุรกิจไมซ์ เล็งแตกแบรนด์สินค้าเกษตรแปรรูป สร้างรายได้เพิ่ม หวังรายได้ปีนี้แตะ 250 ล้านบาท
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ผู้บริหารรุ่นที่ 3 เปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของธุรกิจ ได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และแผนธุรกิจให้ทันสมัยขึ้น สอดคล้องกับพฤตติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว และการเติบโตของธุรกิจไมซ์ ประเดิมด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่อโรงแรมจาก โรส การ์เด้น ริเวอร์ไซด์ สามพราน มาเป็น สามพราน ริเวอร์ไซด์ ปรับโลโก้ให้ดูทันสมัย แต่คงมีปลาตะเพียนไว้เพื่อสื่อถึงวิถีชีวิตไทย ชุมชนริมแม่น้ำ
แนวทางการให้บริการของสามพราน ริเวอร์ไซด์ จะเน้นเจาะตลาดประชุมสัมมนา ทั้งโดเมสติกไมซ์ และไมซ์ที่เดินทางระยะใกล้ในภูมิภาคอาเซียน รวมจีน และอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วไป เจาะกลุ่มเอฟไอที กลุ่มเอ็กซ์แพท กลุ่มครอบครัว เยาวชน คนรุ่นใหม่ ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวสามพราน หรือคนที่เคยมาแล้วตอนเด็กก็ให้มาฟื้นความทรงจำที่นี่เช่นกัน โดยตลอดปีนี้จะเน้นจัดกิจกรรมสร้างเป็นธีม และอีเวนต์หลากหลายรูปแบบ โดยร่วมกับหน่วยงาน องค์กรเพื่อให้มีกิจกรรมออกมาต่อเนื่องเฉลี่ย 1 ครั้งต่อเดือน เพิ่มแขกเข้าพักในวันธรรมดาเพื่อผลักดันอัตราเข้าพักรวมให้เติบโต จากปีก่อนอยู่ที่ 45% จะเพิ่มเป็น 50% ปีนี้ และเพิ่มเป็น 60% ปีหน้า ชูจัดขายท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิถีชีวิต ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม
นอกจากนั้นยังมุ่งสร้างรายได้เพิ่มจากการแปรรูปผลผลิตที่ปลูกในพื้นที่สวนของโรงแรม และ ของชาวบ้านในชุมชน ซึ่งทั้งหมดเป็นเกษตรอินทรีย์ โดยจะนำมาแปรรูปเป็นอาหาร และของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสระผม ครีมบำรุงผิว เป็นต้น สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง จากขณะนี้ สามพรานฯ ก็มีสินค้าเช่นนี้จำหน่ายอยู่บ้างแล้ว แต่จากนี้ไปจะส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ออกมาเพิ่มขึ้น กระจายสินค้าทั้งขายในโรงแรม ติดต่อโรงแรมในประเทศ และต่างประเทศให้นำไปใช้ รวมถึงนำสินค้าส่งไปขายในศูนย์การค้าบางแห่งด้วยในอนาคต ขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนกันยายนนี้
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสวนสามพรานเป็นกลุ่มประชุมสัมมนา 60% และกลุ่มที่มากับทัวร์ 40% โดยกลุ่มประชุมสัมมนามีแนวโน้มเติบโตมาก คาดว่าหลังจากสวนสามพรานได้ปรับปรุงกิจกรรมในหมู่บ้านไทย โดยเน้นให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมจะยิ่งทำให้กลุ่มนี้เดินทางมามากขึ้น และดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มาใช้บริการได้ด้วย
ช่องทางการตลาด ได้ปรับปรุงเว็บไซต์ www.sampranriverside.com เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงของลูกค้ากลุ่มเอฟไอที ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมหาข้อมูลและจองที่พักผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊กในการโปรโมตโรงแรมและกิจกรรม ซึ่งปีนี้จะใช้เลข 50 จัดเป็นอีเวนต์ตลอดปี ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 250 ล้านบาท มีกำไรเล็กน้อย