ไซมิสฯ เผยแผนปี 55 รุกเปิด 4 โครงการใหม่ ทั้งพัฒนาเองและร่วมทุน หวังลดหนี้สินต่อทุนและความเสี่ยง หลังยอดขายไซมิส สุขุมวิท 39 แตะ 95% ส่วนไซมิส ราชครู ยอดจองบัตรคิวล้น เตรียมเปิดจองห้อง 21 เมษายนนี้ พร้อมขน 3 โครงการใหม่เปิดให้จองในงาน ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2,400 ล้านบาท
นายขจร แซ่เอ็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้ลูกค้าจองห้องชุดโครงการ “ไซมิส ราชครู” ในวันที่ 21 เมษายนนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯ 1 อาคาร 2 ตึก ตึกแรกเป็นอาคารสำนักงานสูง 15 ชั้น ขนาด 64-127 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 6-12.2 ล้านบาท รวม 51 ยูนิต อาคารที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียม สูง 27 ชั้น ขนาด 31-161 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.9-17.9 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 9.4 หมื่นบาท-1.1 แสนบาท/ตารางเมตร จำนวน 231 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ขณะนี้มีลูกค้าแสดงความจำนงจองแล้ว 327 ยูนิต คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในวันเดียว
นอกจากนี้ บริษัทจะนำ 3 โครงการใหม่มาเปิดตัวในงานด้วย คือ 1. Siamese Blossom@Fashion บริเวณรามอินทรา กม.10 ตรงข้ามศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งซื้อที่ดินของกลุ่มรังสิยามาจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) จำนวน 90 ไร่ ในราคา 800 ล้านบาท โดยเฟสแรกพื้นที่ 40-50 ไร่จะพัฒนาเป็นทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ มีสวนด้านหลังบ้าน ขนาดตั้งแต่ 17-25 ตารางวา ราคา 3.5 ล้านบาท รวม 400 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
2. โครงการไซมิส สุรวงศ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ มีแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 20 ชั้น จำนวน 150 ยูนิต ในเบื้องต้นจะตั้งราคาขายประมาณ 1 แสนบาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,600-1,700 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มเพื่อน ภายใต้บริษัทไซมิส สุรวงศ์ จำกัด บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 70% และอีก 30% ถือโดยกลุ่มเพื่อนๆ จำนวน 11 ราย
3. โครงการไซมิส บริเวณซอยไผ่สิงโต ฝั่งตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น ขนาด 35-120 ตารางเมตร จำนวน 200 ยูนิต ราคาประมาณ 1 แสนบาท/ตารางเมตร (บวกลบ) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด และเจ้าของที่ดินเดิม คือกลุ่มนายโกมล วงศ์พรเพ็ญภาพ อดีตผู้บริหารอีเอ็มซี ในสัดส่วน 60:40
“การที่บริษัทฯ เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาถือหุ้นใน 2 โครงการดังกล่าวข้างต้น เพราะต้องการรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 2 เท่า และยังเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุน เพราะในปีนี้บริษัทฯ ได้ลงทุนมากกว่าแผนที่วางไว้ โดยใช้งบประมาณซื้อที่ดินมากถึง 1,300 ล้านบาท และงบก่อสร้างคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท”
สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้ง 3 โครงการดังกล่าว จะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัทฯ ก่อนหลังจากนั้นจึงสามารถรับบัตรคิวเพื่อแสดงความจำนงจองในราคายูนิตละ 50,000 บาท โดยบริษัทฯ จะเลือกตามลำดับบัตรคิว หากลูกค้าสละสิทธิ์หรือไม่ได้ห้องชุดบริษัทฯ จะคืนเงินดังกล่าวให้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำที่ดินขนาด 9 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ Siamese Blossom@Fashion มาพัฒนาเป็นสปอร์ตคลับ ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยสนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ โดยจะให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าวจากประเทศสิงคโปร์เข้ามาบริหารงาน
และในปลายปี 2555 จะนำที่ดินในโครงการ Siamese Blossom@Fashion อีก 15 ไร่มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 4 อาคาร สูง 15 ชั้น ขนาด 30-70 ตารางเมตร ราคาประมาณ 40,000-60,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท รวม 700-800 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 2,300-2,400 ล้านบาท โดยจะมาจากการโอนโครงการไซมิส จอยญ่า ที่สุขุมวิท จำนวน 900 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากเงินดาวน์ของลูกค้าจากโครงการไซมิส ราชครู และอีก 3 โครงการที่เปิดใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ กำหนดให้ลูกค้าวางเงินดาวน์โดยนำเงินจำนงจองเปลี่ยนเป็นเงินจองจำนวน 50,000 บาท และเงินจองบวกทำสัญญาประมาณ 10% และค่างวดเงินดาวน์ 18 งวด งวดละ 1% รวมแล้ว 28% ซึ่งหากเป็นบริษัทนอกตลาดหากเก็บเงินจองลูกค้าเกินกว่า 20% จะสามารถรับรู้เป็นรายได้ได้เลย
นายขจร แซ่เอ็ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้ลูกค้าจองห้องชุดโครงการ “ไซมิส ราชครู” ในวันที่ 21 เมษายนนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯ 1 อาคาร 2 ตึก ตึกแรกเป็นอาคารสำนักงานสูง 15 ชั้น ขนาด 64-127 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 6-12.2 ล้านบาท รวม 51 ยูนิต อาคารที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียม สูง 27 ชั้น ขนาด 31-161 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.9-17.9 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ 9.4 หมื่นบาท-1.1 แสนบาท/ตารางเมตร จำนวน 231 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ขณะนี้มีลูกค้าแสดงความจำนงจองแล้ว 327 ยูนิต คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในวันเดียว
นอกจากนี้ บริษัทจะนำ 3 โครงการใหม่มาเปิดตัวในงานด้วย คือ 1. Siamese Blossom@Fashion บริเวณรามอินทรา กม.10 ตรงข้ามศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งซื้อที่ดินของกลุ่มรังสิยามาจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) จำนวน 90 ไร่ ในราคา 800 ล้านบาท โดยเฟสแรกพื้นที่ 40-50 ไร่จะพัฒนาเป็นทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ มีสวนด้านหลังบ้าน ขนาดตั้งแต่ 17-25 ตารางวา ราคา 3.5 ล้านบาท รวม 400 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
2. โครงการไซมิส สุรวงศ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ มีแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 20 ชั้น จำนวน 150 ยูนิต ในเบื้องต้นจะตั้งราคาขายประมาณ 1 แสนบาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,600-1,700 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มเพื่อน ภายใต้บริษัทไซมิส สุรวงศ์ จำกัด บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 70% และอีก 30% ถือโดยกลุ่มเพื่อนๆ จำนวน 11 ราย
3. โครงการไซมิส บริเวณซอยไผ่สิงโต ฝั่งตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มีแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น ขนาด 35-120 ตารางเมตร จำนวน 200 ยูนิต ราคาประมาณ 1 แสนบาท/ตารางเมตร (บวกลบ) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด และเจ้าของที่ดินเดิม คือกลุ่มนายโกมล วงศ์พรเพ็ญภาพ อดีตผู้บริหารอีเอ็มซี ในสัดส่วน 60:40
“การที่บริษัทฯ เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาถือหุ้นใน 2 โครงการดังกล่าวข้างต้น เพราะต้องการรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 2 เท่า และยังเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุน เพราะในปีนี้บริษัทฯ ได้ลงทุนมากกว่าแผนที่วางไว้ โดยใช้งบประมาณซื้อที่ดินมากถึง 1,300 ล้านบาท และงบก่อสร้างคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท”
สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้ง 3 โครงการดังกล่าว จะต้องสมัครเป็นสมาชิกกับบริษัทฯ ก่อนหลังจากนั้นจึงสามารถรับบัตรคิวเพื่อแสดงความจำนงจองในราคายูนิตละ 50,000 บาท โดยบริษัทฯ จะเลือกตามลำดับบัตรคิว หากลูกค้าสละสิทธิ์หรือไม่ได้ห้องชุดบริษัทฯ จะคืนเงินดังกล่าวให้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำที่ดินขนาด 9 ไร่บริเวณด้านหน้าโครงการ Siamese Blossom@Fashion มาพัฒนาเป็นสปอร์ตคลับ ซึ่งภายในจะประกอบไปด้วยสนามฟุตบอล สระว่ายน้ำ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ โดยจะให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องดังกล่าวจากประเทศสิงคโปร์เข้ามาบริหารงาน
และในปลายปี 2555 จะนำที่ดินในโครงการ Siamese Blossom@Fashion อีก 15 ไร่มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 4 อาคาร สูง 15 ชั้น ขนาด 30-70 ตารางเมตร ราคาประมาณ 40,000-60,000 บาท/ตารางเมตร หรือเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท รวม 700-800 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 2,300-2,400 ล้านบาท โดยจะมาจากการโอนโครงการไซมิส จอยญ่า ที่สุขุมวิท จำนวน 900 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากเงินดาวน์ของลูกค้าจากโครงการไซมิส ราชครู และอีก 3 โครงการที่เปิดใหม่ เนื่องจากบริษัทฯ กำหนดให้ลูกค้าวางเงินดาวน์โดยนำเงินจำนงจองเปลี่ยนเป็นเงินจองจำนวน 50,000 บาท และเงินจองบวกทำสัญญาประมาณ 10% และค่างวดเงินดาวน์ 18 งวด งวดละ 1% รวมแล้ว 28% ซึ่งหากเป็นบริษัทนอกตลาดหากเก็บเงินจองลูกค้าเกินกว่า 20% จะสามารถรับรู้เป็นรายได้ได้เลย
