นางศิรพร กฤษณกาญจน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) (RPC) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายทั้งไทย และต่างประเทศสนใจเจรจาเพื่อซื้อโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานผลิตไบโอดีเซลของบริษัทฯ โดยยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อขอซื้อโรงกลั่นจากบริษัท เปตรอนคอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่ของประเทศฟิลิปปินส์แต่อย่างใด หากเปตรอนฯ สนใจซื้อโรงกลั่นจริงก็พร้อมที่จะเจรจา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่าการเจรจาขายโรงกลั่นน้ำมันจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเจรจามีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งในอาเซียน และแอฟริกา โดยจะเป็นการซื้อแล้วย้ายเครื่องจักรไปติดตั้งที่ประเทศของตนเองแล้วให้บริษัทฯ ไปสร้างส่วนเพิ่มเติมโรงกลั่นให้สามารถรองรับน้ำมันดิบในการกลั่นได้นอกเหนือจากคอนเดนเสตเรสซิดิว
ก่อนหน้านี้บริษัทฯ มีแผนจะลงทุนสร้างส่วนเพิ่มโรงกลั่นเพื่อให้สามารถใช้น้ำมันดิบแทนคอนเดนเสตเรสซิดิวที่เคยซื้อจากบริษัทลูก ปตท.เพื่อลดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ แต่ติดปัญหาทำเลที่ตั้งโรงกลั่นไม่อยู่ติดทะเลหรือท่าเทียบเรือ ทำให้ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ไม่คุ้มการลงทุน ดังนั้นจึงเห็นว่าการขายโรงกลั่นออกไปเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เมื่อบริษัทลูก ปตท.หยุดป้อนวัตถุดิบให้
ส่วนโรงงานผลิตไบโอดีเซลนั้นพบว่ามีหลายรายสนใจขอซื้อเช่นกัน ซึ่งมีบางจากฯ รวมอยู่ด้วย โดยเข้ามาเจรจาเพื่อซื้อเฉพาะโรงงานไบโอดีเซลแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนปั๊มน้ำมันเพียวนั้น บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะขายธุรกิจนี้ หากปั๊มใดไม่ดีก็จะปิดไป แต่ขณะนี้มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาขอซื้อโดยจะเลือกซื้อบางปั๊มที่มีทำเลดี เช่น ปตท. แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ คาดว่าปีนี้อาจปิดปั๊มที่หมดสัญญาไป 7-8 ปั๊มจากทั้งหมด 70-80 ปั๊ม
นางศิรพรกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ กำลังแสวงหาการลงทุนธุรกิจใหม่ อาทิ โซลาร์ฟาร์ม โดยพร้อมที่จะยื่นหากรัฐเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ และบริษัทฯ ได้ยื่นขอใบอนุญาตสัมปทานทำเหมืองแร่ควอตซ์ในจังหวัดเพชรบุรีด้วย โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญทำเหมืองแร่อยู่แล้ว โดยแร่ควอตซ์นี้จะใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำแผงโซลาร์เซลล์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ
ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ Globalization Economic and Promotion Network Co., Ltd. (GEPN) ในฮ่องกง เพื่อทำธุรกิจด้านเทรดดิ้งและการลงทุนต่างๆ นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1 เดือนข้างหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเอกสารรายละเอียดต่างๆ โดยจะทำเทรดดิ้งทั้งน้ำมัน และปิโตรฯ ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่ แต่การทำธุรกิจใหม่นี้จะพิจารณาอย่างรอบคอบ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2555 นั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะขาดทุนสุทธิหรือไม่ เนื่องจากในเดือนมกราคมนี้โรงกลั่นยังกลั่นตามปกติ เพียงแต่น้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นได้ต้องส่งออกไปขายต่างประเทศเพราะไม่ใช่น้ำมันยูโร 4 ตามข้อบังคับของกระทรวงพลังงาน ซึ่งราคาน้ำมันส่งออกไม่ค่อยดีนัก ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานเหลืออยู่เกือบ 40 คนจากทั้งหมด 300 คน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่าการเจรจาขายโรงกลั่นน้ำมันจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเจรจามีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งในอาเซียน และแอฟริกา โดยจะเป็นการซื้อแล้วย้ายเครื่องจักรไปติดตั้งที่ประเทศของตนเองแล้วให้บริษัทฯ ไปสร้างส่วนเพิ่มเติมโรงกลั่นให้สามารถรองรับน้ำมันดิบในการกลั่นได้นอกเหนือจากคอนเดนเสตเรสซิดิว
ก่อนหน้านี้บริษัทฯ มีแผนจะลงทุนสร้างส่วนเพิ่มโรงกลั่นเพื่อให้สามารถใช้น้ำมันดิบแทนคอนเดนเสตเรสซิดิวที่เคยซื้อจากบริษัทลูก ปตท.เพื่อลดความเสี่ยงด้านวัตถุดิบ แต่ติดปัญหาทำเลที่ตั้งโรงกลั่นไม่อยู่ติดทะเลหรือท่าเทียบเรือ ทำให้ต้นทุนด้านลอจิสติกส์ไม่คุ้มการลงทุน ดังนั้นจึงเห็นว่าการขายโรงกลั่นออกไปเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้ เมื่อบริษัทลูก ปตท.หยุดป้อนวัตถุดิบให้
ส่วนโรงงานผลิตไบโอดีเซลนั้นพบว่ามีหลายรายสนใจขอซื้อเช่นกัน ซึ่งมีบางจากฯ รวมอยู่ด้วย โดยเข้ามาเจรจาเพื่อซื้อเฉพาะโรงงานไบโอดีเซลแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนปั๊มน้ำมันเพียวนั้น บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายที่จะขายธุรกิจนี้ หากปั๊มใดไม่ดีก็จะปิดไป แต่ขณะนี้มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาขอซื้อโดยจะเลือกซื้อบางปั๊มที่มีทำเลดี เช่น ปตท. แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ คาดว่าปีนี้อาจปิดปั๊มที่หมดสัญญาไป 7-8 ปั๊มจากทั้งหมด 70-80 ปั๊ม
นางศิรพรกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ กำลังแสวงหาการลงทุนธุรกิจใหม่ อาทิ โซลาร์ฟาร์ม โดยพร้อมที่จะยื่นหากรัฐเปิดรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่ และบริษัทฯ ได้ยื่นขอใบอนุญาตสัมปทานทำเหมืองแร่ควอตซ์ในจังหวัดเพชรบุรีด้วย โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญทำเหมืองแร่อยู่แล้ว โดยแร่ควอตซ์นี้จะใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำแผงโซลาร์เซลล์ และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งใน และต่างประเทศ
ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทฯ ให้ความสนใจ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ Globalization Economic and Promotion Network Co., Ltd. (GEPN) ในฮ่องกง เพื่อทำธุรกิจด้านเทรดดิ้งและการลงทุนต่างๆ นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 1 เดือนข้างหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเอกสารรายละเอียดต่างๆ โดยจะทำเทรดดิ้งทั้งน้ำมัน และปิโตรฯ ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่ แต่การทำธุรกิจใหม่นี้จะพิจารณาอย่างรอบคอบ
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2555 นั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะขาดทุนสุทธิหรือไม่ เนื่องจากในเดือนมกราคมนี้โรงกลั่นยังกลั่นตามปกติ เพียงแต่น้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นได้ต้องส่งออกไปขายต่างประเทศเพราะไม่ใช่น้ำมันยูโร 4 ตามข้อบังคับของกระทรวงพลังงาน ซึ่งราคาน้ำมันส่งออกไม่ค่อยดีนัก ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานเหลืออยู่เกือบ 40 คนจากทั้งหมด 300 คน