นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท SCMB จำกัด ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ยื่นเสนอแผนแก้ไขฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าหนี้ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบและศาลล้มละลายกลางได้อ่านคำพิพากษาเห็นชอบแนวทางแผนการกู้เงินเพื่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรจำนวน 220 ล้านบาท ที่จะดำเนินการกู้เงินจาก ธ.ออมสิน จากวงเงินทั้งสิ้น 660 ล้านบาท และ 2 ใน 3 รัฐจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม เจ้าหนี้ยังได้โหวตให้ SCMB ลาออกจากการเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อเปิดทางให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“ทาง SCMB คงจะลาออกจากการเป็นผู้บริหารแผนเร็วๆ นี้เพราะเจ้าหนี้ได้โหวตให้ออก ซึ่งระหว่างนี้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์จะดูแลไปชั่วคราวก่อนจนกว่าผู้บริหารแผนจะลาออก และหาผู้บริหารแผนรายใหม่เข้ามา โดยเข้าใจว่าเจ้าหนี้โหวตออกเพราะอาจจะเห็นไม่ค่อยตรงกัน” นายณัฐพลกล่าว
สำหรับการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ จากนี้ก็จะมีการขออนุญาตการใช้ที่ดินเดิมจากนิคมฯ สหรัตนนคร และแบ่งเฟสการดำเนินงานเพื่อไม่ให้ล่าช้า โดยเฉพาะการทำคันดินให้แข็งแรงน่าจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ แต่กระบวนการเทคอนกรีตต่างๆ คงจะใช้เวลาเลยออกไปอีก ซึ่งมั่นใจว่า จะไม่มีปัญหา เพราะมีการดูแลน้ำตั้งแต่เขื่อน การขุดคลองระบายน้ำ และแผนรองรับกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว
สำหรับความคืบหน้าการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมในนิคมฯ สหรัตนนคร ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท SCMB จำกัด ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของนิคมฯ สหรัตนนครได้เสนอขอแก้ไขแผนฟื้นฟูต่อเจ้าหนี้ และผ่านความเห็นชอบแล้ว หลังจากนั้นจะยื่นต่อศาลเพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งแหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 30 มีนาคม 2555 พบว่าการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของ 6 นิคมฯ คืบหน้าเฉลี่ยกว่า 10% แล้ว โดยนิคมฯ บ้านหว้า(ไฮเทค) คืบหน้า 21.98% นิคมฯ บางปะอิน 24.61% เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ 5.58% สวนอุตสาหกรรมนวนคร 12.39% สวนอุตสาหกรรมบางกะดี 13.64% ส่วนนิคมฯ สหรัตนนครอยู่ระหว่างดำเนินการคัดเลือกผู้รับเหมา ส่วนสถานภาพการประกอบกิจการโรงงาน พบว่า โรงงานทั้งหมด 839 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 545 แห่ง คิดเป็น 64.96% จำนวนนี้เปิด 100% จำนวน 216 แห่ง และบางส่วน 329 แห่ง