นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ (ครั้งที่ 21) ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 22 แปลงสำรวจนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมตามข้อเสนอของคณะกรรมการปิโตรเลียม ที่ต้องการให้มีการแจ้งระดับภูมิภาคให้รับรู้ข้อมูล และการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ เพื่อให้เกิดการยอมรับกับประชาชน ซึ่งคาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จเพื่อเสนอบอร์ดปิโตรเลียมอีก 3-4เดือนข้างหน้า
“รอบใหม่เราจะไม่นำเอาพื้นที่ในเขตทวีวัฒนาที่ล่าสุด บ.มิตรา เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด สำรวจไม่พบร่องรอยปิโตรเลียมใดๆ มาเปิดต่อ รวมถึงพื้นที่อ่อนไหวทั้งบนบกที่อยู่ในแหล่งชุมชน และในแหล่งทะเลที่ใกล้ชุมชนมาเปิดประมูล โดยใน 22 แปลงนี้ จะต่างจากครั้งแรกที่เรานำมาเปิดค่อนข้างมีศักยภาพระดับหนึ่งแล้วและเราจะเปิดให้ 120 วัน ให้เอกชนยื่นเท่านั้นไม่ได้เปิดให้เป็นปีเช่นอดีต” นายทรงภพ กล่าว
สำหรับปี 2555 คาดว่า ไทยจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมสูงถึง 55,000 ล้านบาทเทียบจากปีที่แล้วรายได้ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมอยู่ที่ 48,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากผลประกอบการด้านปิโตรเลียมจะเพิ่มเป็น 70,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 60,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และการผลิตปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้น
“รอบใหม่เราจะไม่นำเอาพื้นที่ในเขตทวีวัฒนาที่ล่าสุด บ.มิตรา เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด สำรวจไม่พบร่องรอยปิโตรเลียมใดๆ มาเปิดต่อ รวมถึงพื้นที่อ่อนไหวทั้งบนบกที่อยู่ในแหล่งชุมชน และในแหล่งทะเลที่ใกล้ชุมชนมาเปิดประมูล โดยใน 22 แปลงนี้ จะต่างจากครั้งแรกที่เรานำมาเปิดค่อนข้างมีศักยภาพระดับหนึ่งแล้วและเราจะเปิดให้ 120 วัน ให้เอกชนยื่นเท่านั้นไม่ได้เปิดให้เป็นปีเช่นอดีต” นายทรงภพ กล่าว
สำหรับปี 2555 คาดว่า ไทยจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมสูงถึง 55,000 ล้านบาทเทียบจากปีที่แล้วรายได้ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมอยู่ที่ 48,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากผลประกอบการด้านปิโตรเลียมจะเพิ่มเป็น 70,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 60,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น และการผลิตปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้น