ASTVผู้จัดการรายวัน - ไก่สดเฮ! อียูยกเลิกห้ามนำเข้าแล้ว หลังแบนมาตั้งแต่ปี 2547 ช่วงไข้หวัดนกระบาด เตรียมเปิดให้นำเข้าได้ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 สหภาพยุโรป ได้มีมติยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อไก่สดจากไทยแล้ว โดยกำหนดให้นำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 หลังจากได้ห้ามนำเข้าเนื้อไก่สดจากไทยตั้งแต่ต้นปี 2547 เมื่อมีการระบาดของไข้หวัดนกในไทย เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไข้หวัดนกในสหภาพยุโรป
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ในการผลักดันให้สหภาพยุโรปเปิดให้ไก่สดไทยเข้าตลาดสหภาพยุโรปมาโดยตลอด โดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ยกประเด็นดังกล่าวหารือในโอกาสที่เอกอัครราชทูต/หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (H.E.David Lipman) เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และล่าสุดได้หารือกับรัฐมนตรีการค้าสหภาพยุโรป (H.E.Karel De Gucht) ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับสหภาพยุโรป (ASEAN AEM-EU) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากประเทศไทยได้ปลอดจากโรคไข้หวัดนกตามหลักการของ World Organization for Animal Health (OIE) ตั้งแต่ปี 2552
การยกเลิกการห้ามนำเข้าของสหภาพยุโรปจะช่วยให้ไทยได้ใช้ประโยชน์จากโควตาไก่สดแช่แข็งจำนวน 5,100 ตัน (อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0) และโควตาไก่หมักเกลือที่ได้รับการชดเชยจากสหภาพยุโรป เมื่อปี 2549 จำนวน 92,610 ตัน (อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 15.4) อย่างเต็มที่ เพราะนับตั้งแต่สหภาพยุโรปได้จัดสรรโควตาส่งออกไก่หมักเกลือและไก่ปรุงสุกให้กับไทยเมื่อปี 2549 ไทยแทบจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโควตาสินค้าไก่หมักเกลือได้ เนื่องจากการห้ามนำเข้าดังกล่าว
นายบุญทรง กล่าวว่า ไทยและสหภาพยุโรปสามารถสรุปผลการเจรจาโควตาสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป เพื่อชดเชยจากการที่สหภาพยุโรปจากขอปรับตารางข้อผูกพันภาษีศุลกากรสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จำนวน 8 รายการ ได้แล้ว โดยสหภาพยุโรปจะจัดสรรโควตาสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป (เป็ดและไก่แปรรูป) ให้เป็นการเฉพาะแก่ไทย รวมทั้งสิ้น 30,810 ตัน โดยแบ่งเป็นสินค้าเนื้อไก่แปรรูป รวม 16,100 ตัน และเนื้อเป็ดแปรรูป 14,710 ตัน โดยมีอัตราภาษีในโควตาร้อยละ 10.9 ยกเว้นเนื้อเป็ดดิบที่มีอัตราภาษีในโควตา 630 ยูโรต่อตัน และอัตราภาษีนอกโควตา 2,765 ยูโร ต่อตันสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปทุกรายการ และเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555 รัฐสภาไทยได้ให้ความเห็นชอบความตกลงข้อตกลงโควตาภาษีสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปกับสหภาพยุโรปดังกล่าวแล้ว คาดว่าระบบโควตาภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ ซึ่งจะช่วยให้สัตว์ปีกแปรรูปไทยมีส่วนแบ่งตลาดที่แน่นอนโดยเฉพาะเป็ดแปรรูปที่กำลังสูญเสียตลาดให้แก่จีนอย่างรวดเร็ว
แม้การจัดสรรโควตาสินค้าสัตว์ปีกให้กับไทยเป็นการเฉพาะจะเป็นการประโยชน์แก่ผู้ส่งออกไทยไปตลาดสหภาพยุโรป แต่การใช้ระบบโควตาภาษี หากมีการนำเข้าเกินปริมาณโควตาที่กำหนดไว้ ก็ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง ดังนั้น หากมีการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรปก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าตลาดสัตว์ปีกไทยในตลาดสหภาพยุโรปได้อย่างยั่งยืน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2555 สหภาพยุโรป ได้มีมติยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อไก่สดจากไทยแล้ว โดยกำหนดให้นำเข้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 หลังจากได้ห้ามนำเข้าเนื้อไก่สดจากไทยตั้งแต่ต้นปี 2547 เมื่อมีการระบาดของไข้หวัดนกในไทย เพื่อควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไข้หวัดนกในสหภาพยุโรป
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ในการผลักดันให้สหภาพยุโรปเปิดให้ไก่สดไทยเข้าตลาดสหภาพยุโรปมาโดยตลอด โดย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ยกประเด็นดังกล่าวหารือในโอกาสที่เอกอัครราชทูต/หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (H.E.David Lipman) เข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และล่าสุดได้หารือกับรัฐมนตรีการค้าสหภาพยุโรป (H.E.Karel De Gucht) ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับสหภาพยุโรป (ASEAN AEM-EU) ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากประเทศไทยได้ปลอดจากโรคไข้หวัดนกตามหลักการของ World Organization for Animal Health (OIE) ตั้งแต่ปี 2552
การยกเลิกการห้ามนำเข้าของสหภาพยุโรปจะช่วยให้ไทยได้ใช้ประโยชน์จากโควตาไก่สดแช่แข็งจำนวน 5,100 ตัน (อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 0) และโควตาไก่หมักเกลือที่ได้รับการชดเชยจากสหภาพยุโรป เมื่อปี 2549 จำนวน 92,610 ตัน (อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 15.4) อย่างเต็มที่ เพราะนับตั้งแต่สหภาพยุโรปได้จัดสรรโควตาส่งออกไก่หมักเกลือและไก่ปรุงสุกให้กับไทยเมื่อปี 2549 ไทยแทบจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโควตาสินค้าไก่หมักเกลือได้ เนื่องจากการห้ามนำเข้าดังกล่าว
นายบุญทรง กล่าวว่า ไทยและสหภาพยุโรปสามารถสรุปผลการเจรจาโควตาสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป เพื่อชดเชยจากการที่สหภาพยุโรปจากขอปรับตารางข้อผูกพันภาษีศุลกากรสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จำนวน 8 รายการ ได้แล้ว โดยสหภาพยุโรปจะจัดสรรโควตาสินค้าสัตว์ปีกแปรรูป (เป็ดและไก่แปรรูป) ให้เป็นการเฉพาะแก่ไทย รวมทั้งสิ้น 30,810 ตัน โดยแบ่งเป็นสินค้าเนื้อไก่แปรรูป รวม 16,100 ตัน และเนื้อเป็ดแปรรูป 14,710 ตัน โดยมีอัตราภาษีในโควตาร้อยละ 10.9 ยกเว้นเนื้อเป็ดดิบที่มีอัตราภาษีในโควตา 630 ยูโรต่อตัน และอัตราภาษีนอกโควตา 2,765 ยูโร ต่อตันสำหรับสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปทุกรายการ และเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555 รัฐสภาไทยได้ให้ความเห็นชอบความตกลงข้อตกลงโควตาภาษีสินค้าสัตว์ปีกแปรรูปกับสหภาพยุโรปดังกล่าวแล้ว คาดว่าระบบโควตาภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม นี้ ซึ่งจะช่วยให้สัตว์ปีกแปรรูปไทยมีส่วนแบ่งตลาดที่แน่นอนโดยเฉพาะเป็ดแปรรูปที่กำลังสูญเสียตลาดให้แก่จีนอย่างรวดเร็ว
แม้การจัดสรรโควตาสินค้าสัตว์ปีกให้กับไทยเป็นการเฉพาะจะเป็นการประโยชน์แก่ผู้ส่งออกไทยไปตลาดสหภาพยุโรป แต่การใช้ระบบโควตาภาษี หากมีการนำเข้าเกินปริมาณโควตาที่กำหนดไว้ ก็ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง ดังนั้น หากมีการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรปก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าตลาดสัตว์ปีกไทยในตลาดสหภาพยุโรปได้อย่างยั่งยืน