ASTVผู้จัดการรายวัน - จังซีลอน รับเปิดเออีซี คาด ช่วยดันนักท่องเที่ยวและนักชอปปิ้งทะลักไทยโดยเฉพาะเข้าภูเก็ตเพียบ ซุ่มแผนขยายพื้นที่คาดเพิ่มจำนวนชั้นของอาคารรองรับการขยายตัวของตลาด พร้อมดึงแบรนด์เนมเข้าศูนย์เพียบ
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เปิดเผยว่า ในปี 2558 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี จะมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นโดยเฉพาะที่ภาคใต้ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ล้านคน ที่มาเที่ยวภูเก็ต จาก 2 ปีก่อนที่มีประมาณ 4 ล้านคน ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกประเภทต่างๆ หันมาขยายสาขาธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดค้าปลีกเติบโตอย่างมาก
ดังนั้น บริษัทมีแผนท่จะขยายพื้นที่ของศูนย์การค้าจังซีลอนอีก จากปัจจุบันมีพื้นที่ 55 ไร่ รวม 2 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีก 7 หมื่นตารางเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางเบื้องต้นคาดว่าจะขยายเพิ่มในแนวสูงด้วยการเพิ่มจำนวนชั้น แต่คงต้องศึกษารายละเอียดการคุ้มทุนก่อนรวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย ปัจจุบันที่ดินในอำเภอป่าตอง ภูเก็ต มีราคาสูงขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หรือกว่า 100 ล้านบาทต่อไร่ ในขณะนี้ จากเดิมราคา 20-40 ล้านบาทต่อไร่
อยางไรก็ตาม ปีนี้เตรียมงบกว่า 50 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นหลังเปิดให้บริการครบรอบ 5 ปี คือปรับปรุง 5 โซน คือ บิวตี โซน, เดอะ พอร์ท, ฟู้ด คอร์ท, ชิโน โซน, เซลิง บูเลอวาร์ด รวมพื้นที่ 5,000 ตร.ม.และเพิ่มร้านค้าใหม่ 30 ร้าน ในกลุ่มแฟชัน และร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ รวมถึงดึงร้านสาขากาแฟชื่อดังจากประเทศเกาหลีแบรนด์ ‘Pascucci’ เข้ามาเปิดให้บริการในไทยเป็นแห่งแรกด้วย โดยในอนาคตศูนย์ยังเตรียมเปิดให้บริการร้านค้าอินเตอร์แบรนด์เนมชั้นนำมากขึ้นเป็นสัดส่วน 80-90% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50-60% โดยปัจจุบันมีร้านค้า 300 ยูนิต
ล่าสุด ได้เปิดบริการโรงแรมพิมนารา บูติค โฮเท็ล ป่าตอง ภูเก็ต ทำให้มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 76 ห้อง จากเดิมมีโรงแรมมิลเลนเนียม รีสอร์ท ป่าตอง ภูเก็ตจ จำนวน 418 ห้องพัก ที่อยู่ภายในศูนย์ก่อนหน้า
ปัจจุบันลูกค้าของจังซีลอน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 70% และ 30% เป็นกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยในภูเก็ต ในช่วงฤดูท่องเที่ยวมีปริมาณลูกค้าหมุนเวียน 4.5-5 หมื่นคนต่อวัน และในช่วงปกติเฉลี่ย 3.5-4 หมื่นคนต่อวัน และมีกำลังการจับจ่ายสูงเฉลี่ย 3,500-4,500 บาทต่อใบเสร็จต่อคนจากเดิมอยู่ที่ 2,500-3,000 บาทต่อใบเสร็จต่อคนคาดว่าสสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท
นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ต สแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เปิดเผยว่า ในปี 2558 ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี จะมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวต่างาติเข้ามาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นโดยเฉพาะที่ภาคใต้ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ล้านคน ที่มาเที่ยวภูเก็ต จาก 2 ปีก่อนที่มีประมาณ 4 ล้านคน ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังมีกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกประเภทต่างๆ หันมาขยายสาขาธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดค้าปลีกเติบโตอย่างมาก
ดังนั้น บริษัทมีแผนท่จะขยายพื้นที่ของศูนย์การค้าจังซีลอนอีก จากปัจจุบันมีพื้นที่ 55 ไร่ รวม 2 แสนตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีก 7 หมื่นตารางเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางเบื้องต้นคาดว่าจะขยายเพิ่มในแนวสูงด้วยการเพิ่มจำนวนชั้น แต่คงต้องศึกษารายละเอียดการคุ้มทุนก่อนรวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย ปัจจุบันที่ดินในอำเภอป่าตอง ภูเก็ต มีราคาสูงขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หรือกว่า 100 ล้านบาทต่อไร่ ในขณะนี้ จากเดิมราคา 20-40 ล้านบาทต่อไร่
อยางไรก็ตาม ปีนี้เตรียมงบกว่า 50 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นหลังเปิดให้บริการครบรอบ 5 ปี คือปรับปรุง 5 โซน คือ บิวตี โซน, เดอะ พอร์ท, ฟู้ด คอร์ท, ชิโน โซน, เซลิง บูเลอวาร์ด รวมพื้นที่ 5,000 ตร.ม.และเพิ่มร้านค้าใหม่ 30 ร้าน ในกลุ่มแฟชัน และร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ รวมถึงดึงร้านสาขากาแฟชื่อดังจากประเทศเกาหลีแบรนด์ ‘Pascucci’ เข้ามาเปิดให้บริการในไทยเป็นแห่งแรกด้วย โดยในอนาคตศูนย์ยังเตรียมเปิดให้บริการร้านค้าอินเตอร์แบรนด์เนมชั้นนำมากขึ้นเป็นสัดส่วน 80-90% จากปัจจุบันอยู่ที่ 50-60% โดยปัจจุบันมีร้านค้า 300 ยูนิต
ล่าสุด ได้เปิดบริการโรงแรมพิมนารา บูติค โฮเท็ล ป่าตอง ภูเก็ต ทำให้มีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นอีก 76 ห้อง จากเดิมมีโรงแรมมิลเลนเนียม รีสอร์ท ป่าตอง ภูเก็ตจ จำนวน 418 ห้องพัก ที่อยู่ภายในศูนย์ก่อนหน้า
ปัจจุบันลูกค้าของจังซีลอน เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ 70% และ 30% เป็นกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยในภูเก็ต ในช่วงฤดูท่องเที่ยวมีปริมาณลูกค้าหมุนเวียน 4.5-5 หมื่นคนต่อวัน และในช่วงปกติเฉลี่ย 3.5-4 หมื่นคนต่อวัน และมีกำลังการจับจ่ายสูงเฉลี่ย 3,500-4,500 บาทต่อใบเสร็จต่อคนจากเดิมอยู่ที่ 2,500-3,000 บาทต่อใบเสร็จต่อคนคาดว่าสสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 500 ล้านบาท
