ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีพีเอ็น” รับมือเออีซี ผุดโครงการใหญ่รวมมูลค่า 25,300 ล้านบาท 2 ปีนี้ ตามแนวตะเข็บจังหวัดชายแดน เพื่อเชื่อมการค้ากับต่างประเทศ พร้อมจ่อรุกอาเซียนขยายอาณาจักร
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกในปี 2555 คาดว่าเศรษฐกิจของไทยมีสัญญานที่ดีในปีนี้ เพราะมีปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ธุรกิจขยายตัวหลายด้าน ทั้งมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2555 ที่ยังคงมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และซีพีเอ็นเองมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง
แผนลงทุนปี 2555 - 2556 จะใช้งบลงทุนรวม 25,300 ล้านบาท พัฒนา 7 โครงการใหม่ คือ 1.โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี โฉมใหม่ (มกราคม 2555), 2.เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี โฉมใหม่ (เปิดให้บริการวันที่ 27 มีนาคม 2555 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ 26 เมษายน 2555), 3.เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี (ตุลาคม 2555), 4.เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ธันวาคม 2555), 5.เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี (เมษายน 2556), 6. เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ (ตุลาคม 2556) และ 7. เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ (พฤศจิกายน 2556)
ส่งผลให้สิ้นปี 2556 ซีพีเอ็นจะมีสาขาเปิดบริการรวมทั้งสิ้น 23 ศูนย์การค้าและอีก 2 โรงแรม และสามารถเพิ่มพื้นที่ GFA หรือ Gross Floor Area ของศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจากกว่า 4.2 ล้าน ตร.ม. ในปัจจุบัน ให้เป็นกว่า 5 ล้าน ตร.ม. ในปี 2556 รวมทั้งคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตรายได้ 25% และปีหน้าเติบโต 15% ย้ำความเป็นผู้นำตลาด
นอกจากแผนพัฒนาโครงการแล้ว ซีพีเอ็นยังคำนึงถึงเรื่อง ไครซิสแมเนจเมนต์ ( Crisis Management) ต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น ภัยจากการก่อการร้าย รวมทั้งโกลลบอลวอร์มมิ่งหรือโลกร้อน รวมทั้งเรื่องน้ำท่วม เพราะว่าโลกมีการเปลีย่นแปลงอย่งมาาก ทุกอย่างเราคำนึงถึงและวางแผนอยู่ในการบริหารความเสี่ยงไว้หมดแล้ว เช่นเรื่องน้ำท่วมมีบทเรียนจากปีที่แล้วได้นำมาเป็นข้อมูลในการป้องันน้ำท่วมปีนี้ ซึงปีที่แล้วเราไม่โดนนท่วมแต่โดนน้ำล้อมถึง 3 ศูนย์ฯ ขณะเดียวกันได้ลงทุนด้านระบบซอฟท์แวร์ อีอาร์พี เพื่อให้การจัดระบบต่างๆ การเชื่อมข้อมูต่างๆ การวางแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากที่เรามีหลายโครงการจึงมีหลายหน่วยงานซึ่งเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายกอบชัยกล่าวด้วยว่า การเปิดเออีซี เรามีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่สร้างความแข็งแกร่งในไทย เราต้องขยายธุรกิจไปต่างประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้ศึกษารายละเอียดอยู่
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด กล่าวเสริมว่า แต่ละโครงการของซีพีเอ็นทั้งหมดนี้ เป็นการปักหลักเพื่อรองรับการการเปิดเออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วย กล่าวคือ ที่เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง จะเป็นพื้นที่รองรับตลาดจีน ลาว และพม่า ขณะที่สาขาที่อุดรธานีหรืออีสานนั้นจะเชื่อมต่อกับเวียงจันทน์ ส่วนอุบลราชธานี จะเชื่อมต่อกับจำปาศักดิ์และปากเซ ส่วนที่หาดใหญ่ก็สามารถจะเชื่อมต่อกับมาเลเซียได้ ซึ่งจะทำให้ทุกสาขาของซีพีเอ็นเป็นเสมือนศูนย์กลางในการรับมือกับประชากรและกำลังซื้อที่จะเข้ามาในไทยได้มากขึ้นด้วย
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกในปี 2555 คาดว่าเศรษฐกิจของไทยมีสัญญานที่ดีในปีนี้ เพราะมีปัจจัยที่จะช่วยหนุนให้ธุรกิจขยายตัวหลายด้าน ทั้งมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจและอัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2555 ที่ยังคงมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และซีพีเอ็นเองมีแผนขยายธุรกิจต่อเนื่อง
แผนลงทุนปี 2555 - 2556 จะใช้งบลงทุนรวม 25,300 ล้านบาท พัฒนา 7 โครงการใหม่ คือ 1.โรงแรมเซ็นทารา อุดรธานี โฉมใหม่ (มกราคม 2555), 2.เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี โฉมใหม่ (เปิดให้บริการวันที่ 27 มีนาคม 2555 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ 26 เมษายน 2555), 3.เซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี (ตุลาคม 2555), 4.เซ็นทรัลพลาซา ลำปาง (ธันวาคม 2555), 5.เซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี (เมษายน 2556), 6. เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ (ตุลาคม 2556) และ 7. เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ (พฤศจิกายน 2556)
ส่งผลให้สิ้นปี 2556 ซีพีเอ็นจะมีสาขาเปิดบริการรวมทั้งสิ้น 23 ศูนย์การค้าและอีก 2 โรงแรม และสามารถเพิ่มพื้นที่ GFA หรือ Gross Floor Area ของศูนย์การค้าของซีพีเอ็นจากกว่า 4.2 ล้าน ตร.ม. ในปัจจุบัน ให้เป็นกว่า 5 ล้าน ตร.ม. ในปี 2556 รวมทั้งคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตรายได้ 25% และปีหน้าเติบโต 15% ย้ำความเป็นผู้นำตลาด
นอกจากแผนพัฒนาโครงการแล้ว ซีพีเอ็นยังคำนึงถึงเรื่อง ไครซิสแมเนจเมนต์ ( Crisis Management) ต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น ภัยจากการก่อการร้าย รวมทั้งโกลลบอลวอร์มมิ่งหรือโลกร้อน รวมทั้งเรื่องน้ำท่วม เพราะว่าโลกมีการเปลีย่นแปลงอย่งมาาก ทุกอย่างเราคำนึงถึงและวางแผนอยู่ในการบริหารความเสี่ยงไว้หมดแล้ว เช่นเรื่องน้ำท่วมมีบทเรียนจากปีที่แล้วได้นำมาเป็นข้อมูลในการป้องันน้ำท่วมปีนี้ ซึงปีที่แล้วเราไม่โดนนท่วมแต่โดนน้ำล้อมถึง 3 ศูนย์ฯ ขณะเดียวกันได้ลงทุนด้านระบบซอฟท์แวร์ อีอาร์พี เพื่อให้การจัดระบบต่างๆ การเชื่อมข้อมูต่างๆ การวางแผนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากที่เรามีหลายโครงการจึงมีหลายหน่วยงานซึ่งเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นายกอบชัยกล่าวด้วยว่า การเปิดเออีซี เรามีการเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ไม่ใช่แค่สร้างความแข็งแกร่งในไทย เราต้องขยายธุรกิจไปต่างประเทศด้วย ซึ่งขณะนี้ศึกษารายละเอียดอยู่
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด กล่าวเสริมว่า แต่ละโครงการของซีพีเอ็นทั้งหมดนี้ เป็นการปักหลักเพื่อรองรับการการเปิดเออีซี หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ด้วย กล่าวคือ ที่เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง จะเป็นพื้นที่รองรับตลาดจีน ลาว และพม่า ขณะที่สาขาที่อุดรธานีหรืออีสานนั้นจะเชื่อมต่อกับเวียงจันทน์ ส่วนอุบลราชธานี จะเชื่อมต่อกับจำปาศักดิ์และปากเซ ส่วนที่หาดใหญ่ก็สามารถจะเชื่อมต่อกับมาเลเซียได้ ซึ่งจะทำให้ทุกสาขาของซีพีเอ็นเป็นเสมือนศูนย์กลางในการรับมือกับประชากรและกำลังซื้อที่จะเข้ามาในไทยได้มากขึ้นด้วย
