ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ด ทอท.ไฟเขียวปรับขึ้นค่า PSC ผู้โดยสารระหว่างประเทศจาก 700 เป็น 800 บาทต่อคน ในประเทศ 100 เป็น 150 บาทต่อคน เตรียมส่ง กบร.อนุมัติก่อนบังคับใช้ “สุเมธ” เผย ปรับตามต้นทุนค่าใช้จ่ายจริงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดสุวรรณภูมิปี 49 พร้อมสั่งอนุกรรมการตรวจสอบสัมปทานคิง เพาเวอร์ ปฏิบัติถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน Point of sale สแกนยอดขายทุกร้านค้า และตั้งอนุกรรมการศึกษาแนวทางการพัฒนาสนามบินดอนเมืองเล็งหาเที่ยวบินเพิ่มรายได้ ฟุ้งเชียงใหม่ติดอันดับ 4 ของโลกสนามบินมีคุณภาพการให้บริการดีที่สุด ประเภทผู้โดยสารไม่เกินล้านคนต่อปี
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ทอท.วานนี้ (23 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) ในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศจาก 700 บาทเป็น 800 บาทต่อคน และผู้โดยสารภายในประเทศ จาก 100 บาท เป็น150 บาทต่อคน โดยจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เพื่อพิจารณาก่อนมีผลบังคับใช้ ซึ่งการปรับขึ้นค่า PSC เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายจริงในปัจจุบันซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งอัตราปัจจุบันนั้นใ้มาตั้งแต่่เปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบสัญญาสัมปทานกลุ่มคิง เพาเวอร์ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) และบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบว่า มีการปฏิบัติตามสัญญาที่กำหนดไว้ถูกต้องหรือไม่ สัญญาที่กำหนดไว้มีขอบเขตอย่างไร โดยให้รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบต่อบอร์ดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งยืนยันว่าการตรวจสอบสัญญาของคิง เพาเวอร์ นั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา
ส่วนการลงทุนติดตั้งระบบระบบ Point of Sale นั้น ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลการซื้อขายร้านค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์นั้น พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า จะต้องรอผลการตรวจสอบข้อมูลและการปฏิบัติตามสัญญาของคณะอนุกรรมการก่อน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่มากขึ้นและบอร์ดจึงจะพิจารณาเรื่องลงทุนติดตั้งระบบ Point of Sale ซึ่งยอมรับเป็นระบบที่มีความจำเป็นในการบริหารงานของทอท.ให้เกิดประสิทธิภาพ
ประธานบอร์ด ทอท.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการอีก 1 ชุด โดยมี นายธานินทร์ อังสุวรังษี เป็นประธาน เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาธุรกิจของท่าอากาศยานดอนเมือง ให้มีความชัดเจนเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพื่อเพิ่มรายได้ให้ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยให้รายงานความคืบหน้าต่อบอร์ดในการประชุมครั้งต่อไปเช่นกัน
“คณะอนุกรรมการจะต้องศึกษาว่าจะพัฒนาดอนเมืองไปในทิศทางใด หลักการคือเปิดกว้างให้ทุกสายการบินมาใช้บริการโดยไม่กระทบต่อผู้โดยสารต่อเครื่อง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้วยังจะช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาดอนเมืองไม่ชัดเจนไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่เกิดความสูญเปล่าและเสียโอกาสมาก” พล.อ.อ.สุเมธ กล่าว
***ท่าอากาศยานเชียงใหม่ติดอันดับ 4 ของโลกตามโครงการ ASQ
ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับอันดับที่ 4 จากท่าอากาศยานที่เข้าร่วมทั้งหมด 34 แห่ง ที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 5 ล้านคนต่อปีตามโครงการจัดอันดับท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการให้บริการดีที่สุดของโลก (Airport Service Quality Program :ASQ) จัดโดย Airports Council International (ACI) ประจำปี 2554 จากการประกาศผลเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555และตั้งเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 5 ภายในปี 2557
ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ ทอท.ได้พิจารณาส่ง ทชม.เข้าประกวดในเวทีโลกดังกล่าว เนื่องจาก ทชม.มีความพร้อมทั้งด้าน อาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ ความปลอดภัยและบุคลากร ซึ่งการเข้าร่วมโครงการ ASQ นั้น ทาง ACI ผู้จัดได้มีการให้ผู้โดยสาร และผู้ที่เกี่ยวข้องในท่าอากาศยานทั้งชาวต่างชาติและคนไทยตอบแบบสอบถามความพึงพอใจในด้านต่างๆ ซึ่งมีตัวชี้วัด 33 ตัวชี้วัด เช่น ความสะอาด บรรยากาศของท่าอากาศยาน ความสุภาพของพนักงาน และความปลอดภัย เป็นต้น
ดังนั้น จากการที่ ทชม.ได้รับการจัดอันดับที่ 4 ของโลกในปี2554 จึงแสดงให้เห็นว่า ทชม.มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีการบริการที่ประทับใจต่อผู้ที่มาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ทอท.ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการของ ทชม.อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้รับความพึงพอใจสูงสุดสมกับสโลแกน “ปลอดภัยคือมาตรฐาน บริการคือหัวใจ” รวมทั้งตั้งเป้าหมายให้ ทชม.ติดอันดับที่สูงขึ้นต่อไป ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ทอท.วานนี้ (23 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) ในส่วนของผู้โดยสารระหว่างประเทศจาก 700 บาทเป็น 800 บาทต่อคน และผู้โดยสารภายในประเทศ จาก 100 บาท เป็น150 บาทต่อคน โดยจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เพื่อพิจารณาก่อนมีผลบังคับใช้ ซึ่งการปรับขึ้นค่า PSC เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและค่าใช้จ่ายจริงในปัจจุบันซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม ซึ่งอัตราปัจจุบันนั้นใ้มาตั้งแต่่เปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบสัญญาสัมปทานกลุ่มคิง เพาเวอร์ คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) และบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมี นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ เป็นประธาน ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบว่า มีการปฏิบัติตามสัญญาที่กำหนดไว้ถูกต้องหรือไม่ สัญญาที่กำหนดไว้มีขอบเขตอย่างไร โดยให้รายงานความคืบหน้าการตรวจสอบต่อบอร์ดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งยืนยันว่าการตรวจสอบสัญญาของคิง เพาเวอร์ นั้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา
ส่วนการลงทุนติดตั้งระบบระบบ Point of Sale นั้น ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลการซื้อขายร้านค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์นั้น พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า จะต้องรอผลการตรวจสอบข้อมูลและการปฏิบัติตามสัญญาของคณะอนุกรรมการก่อน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่มากขึ้นและบอร์ดจึงจะพิจารณาเรื่องลงทุนติดตั้งระบบ Point of Sale ซึ่งยอมรับเป็นระบบที่มีความจำเป็นในการบริหารงานของทอท.ให้เกิดประสิทธิภาพ
ประธานบอร์ด ทอท.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะอนุกรรมการอีก 1 ชุด โดยมี นายธานินทร์ อังสุวรังษี เป็นประธาน เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาธุรกิจของท่าอากาศยานดอนเมือง ให้มีความชัดเจนเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพื่อเพิ่มรายได้ให้ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยให้รายงานความคืบหน้าต่อบอร์ดในการประชุมครั้งต่อไปเช่นกัน
“คณะอนุกรรมการจะต้องศึกษาว่าจะพัฒนาดอนเมืองไปในทิศทางใด หลักการคือเปิดกว้างให้ทุกสายการบินมาใช้บริการโดยไม่กระทบต่อผู้โดยสารต่อเครื่อง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้วยังจะช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิได้อีกด้วย ซึ่ง 4-5 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาดอนเมืองไม่ชัดเจนไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่เกิดความสูญเปล่าและเสียโอกาสมาก” พล.อ.อ.สุเมธ กล่าว
***ท่าอากาศยานเชียงใหม่ติดอันดับ 4 ของโลกตามโครงการ ASQ
ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้รับอันดับที่ 4 จากท่าอากาศยานที่เข้าร่วมทั้งหมด 34 แห่ง ที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 5 ล้านคนต่อปีตามโครงการจัดอันดับท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการให้บริการดีที่สุดของโลก (Airport Service Quality Program :ASQ) จัดโดย Airports Council International (ACI) ประจำปี 2554 จากการประกาศผลเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555และตั้งเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 5 ภายในปี 2557
ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ ทอท.ได้พิจารณาส่ง ทชม.เข้าประกวดในเวทีโลกดังกล่าว เนื่องจาก ทชม.มีความพร้อมทั้งด้าน อาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ ความปลอดภัยและบุคลากร ซึ่งการเข้าร่วมโครงการ ASQ นั้น ทาง ACI ผู้จัดได้มีการให้ผู้โดยสาร และผู้ที่เกี่ยวข้องในท่าอากาศยานทั้งชาวต่างชาติและคนไทยตอบแบบสอบถามความพึงพอใจในด้านต่างๆ ซึ่งมีตัวชี้วัด 33 ตัวชี้วัด เช่น ความสะอาด บรรยากาศของท่าอากาศยาน ความสุภาพของพนักงาน และความปลอดภัย เป็นต้น
ดังนั้น จากการที่ ทชม.ได้รับการจัดอันดับที่ 4 ของโลกในปี2554 จึงแสดงให้เห็นว่า ทชม.มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีการบริการที่ประทับใจต่อผู้ที่มาใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ทอท.ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการของ ทชม.อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้รับความพึงพอใจสูงสุดสมกับสโลแกน “ปลอดภัยคือมาตรฐาน บริการคือหัวใจ” รวมทั้งตั้งเป้าหมายให้ ทชม.ติดอันดับที่สูงขึ้นต่อไป ซึ่งจะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ
