บอร์ด ร.ฟ.ท.เคาะราคาเช่าตลาดนัดจตุจักร 3,157 บาทต่อแผง พร้อมค่าธรรมเนียมอีก 50,000 บาท เปิดช่องผ่อนชำระได้ 3 งวด สัญาญาเช่าคราวละ 3 ปี ต่ออายุได้ครั้งละ 2 ปี คาดดีเดย์ 1 มี.ค.นี้ แย้มรูปแบบเสาร์-อาทิตย์เหมือนเดิม ไม่ติดแอร์
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท.วานนี้ มีมติเคาะราคาค่าเช่าแผงค้าในตลาดนัดจตุจักร แผงละ 3,157 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ผู้ค้ายังต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 50,000 บาท โดยจะเริ่มเก็บในวันที่ 1 มีนาคม 2555 ทั้งนี้ สำหรับค่าธรรมเนียมนั้น หากผู้ค้าไม่สามารถจ่ายได้ทั้งหมด สามารถที่จะแบ่งจ่ายได้เป็น 3 งวด
“หลังจากที่ ร.ฟ.ท.เก็บค่าเช่าแผง ในราคา 3,175 บาทแล้ว ก็จะงดเก็บค่าเช่าเป็นเวลา 2 เดือน โดยจะเริ่มเก็บค่าเช่าแผง 1 มี.ค.55 สำหรับผู้ที่ทำสัญญากับ ร.ฟ.ท.จะมีอายุสัญญา 3 ปี และต่อสัญญาได้อีกคราวละ 2 ปี ส่วนค่าเช่าแผงที่เราเก็บไม่ถือว่าแพงเนื่องจากเราจะไม่ให้กระทบต่อผู้ค้า”
โดยในเร็วๆ นี้ ร.ฟ.ท.จะเรียกผู้ค้ามาทำความเข้าใจและรับทราบถึงอัตราค่าเช่า รวมถึงการทำสัญญาสมุดคู่มือในการเช่า ส่วนผู้ค้าที่มีปัญหาด้านการเงิน ร.ฟ.ท.ได้ประสานกับธนาคารออมสินเพื่อให้กู้เงินในครั้งนี้
นายยุทธนากล่าวถึงแนวทางการบริหารตลาดนัดจตุจักร หลังจากนี้จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการออกแบบปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยเน้นการปรับปรุงสาธารณูปโภค ภาพลักษณ์และความปลอดภัย โดยรูปแบบของตลาดนัดยังคงเน้นให้เป็นตลาดเสาร์-อาทิตย์ ไม่ติดแอร์เหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังประกาศให้หาบเร่แผงลอยมีการจัดระเบียบห้ามวางสิ่งของกีดขวางทางเดิน แต่มีช่วงเวลาที่กำหนดไว้คือ หลังเวลา 18.00 น.ขึ้นไป สามารถนำของมาวางขายได้ในพื้นที่ลานจอดรถที่ได้จัดเตรียมไว้
ที่ประชุม ร.ฟ.ท.ยังได้รายงานความคืบหน้าการจัดตั้ง บริษัทลูก (บียู) มาบริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ โดยได้ว่าจ้างที่ปรึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษารูปแบบในการบริหาร ซึ่งขณะนี้เตรียมที่จะเสนอไปยังกระทรวงการคลังให้พิจารณาเห็นชอบในหลักการ คาดว่าจะใช้เวลา 6 เดือน ในการศึกษารายละเอียด
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร ร.ฟ.ท.ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้กระทรวงการคลังเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากที่พบว่า งานก่อสร้างสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง) มีผู้รับเหมาเสนอราคาสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 2.7 หมื่นล้านบาท
