“ทีมกรุ๊ป” แจง 7 เหตุผลหลัก คาดการณ์น้ำท่วมปีนี้ ไม่รุนแรงเท่าปี 54 ห่วง 2 ปัญหาใหญ่ “การขุดลอกคลอง-พื้นที่รองรับน้ำ” ล่าช้า พร้อมยอมรับ หลายพื้นที่ยังมีความเสี่ยง
นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัททีมกรุ๊ป จำกัด กล่าวให้ความเห็นถึงสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ โดยประเมินว่า หลายพื้นที่ยังคงมีความเสี่ยงถูกน้ำท่วม แต่สถานการณ์จะไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 เนื่องจากปัจจัย 7 ประการ ดังนี้
ประการแรก คือ การบริหารจัดการน้ำในปีนี้ดีกว่าปีก่อน เพราะมีกฎเกณณ์ในการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำใหม่ จากเดิมที่เป้าหมายในการบริหารจัดการน้ำเป็นไปเพื่อการเกษตร ผลิตกระแสไฟฟ้า ปีนี้ก็เพิ่มเรื่องการควบคุมน้ำท่วม เพราะฉะนั้นก็จะมีกฎใหม่ๆ เรื่องการพร่องน้ำ การเก็บน้ำ และการปล่อยน้ำมาใช้ ซึ่งขณะนี้ก็ได้เริ่มดำเนินการแล้วและถือว่าช่วยให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างได้ผล
ประการที่สอง จากการที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณแผนบริหารจัดการน้ำ ขณะนี้ก็ได้เดินหน้าใช้งบในการซ่อมพนัง ซ่อมประตูน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพื่อป้องกันน้ำท่วมแล้ว ทำให้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น
ประการที่สาม จากสถิติของกรมอุตุนิยมวิทยา แม้จะระบุว่า ในปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์ลานินญา คือน้ำมาก แต่ปริมาณฝนก็ไม่มากกว่าปีที่แล้ว นอกจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับพายุก็ใช้ข้อมูลของ 6 สถาบันของโลก ซึ่งประเมินว่าในปีนี้พายุคงไม่เกิน 4 ลูก ทำให้ปริมาณฝนน้อยกว่า
โดยในปีที่แล้ว มีปัญหาใหญ่ คือ ฝนตกในปริมาณมาก และยังเจอพายุเข้า 3 ลูกซ้อน ช่วงปลายเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม ส่วนปีนี้ฝนจะน้อยกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 20%
ประการที่สี่ หน่วยงานราชการมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการน้ำขนาดยักษ์ ทั้งการปล่อยน้ำ การเก็บน้ำ ทำให้การบริหารจัดการน้ำดีขึ้น ประการที่ห้า ประชาชนตระหนักเรื่องการต่อสู้ เรื่องความรักสามัคคี มีขึ้นอย่างมาก ซึ่งจะทำให้ระบบการช่วยเหลือต่างๆ เป็นไปด้วยดีขึ้น
ประการที่หก ระบบการเตือนภัยที่มีขึ้นในหน่วยงานเดียวกัน ทำให้ข่าวสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความถูกต้องและเชื่อถือได้ ประการที่เจ็ด การจัดตั้งศูนย์บัญชาการ รวมทุกอย่างภายใต้นายกรัฐมนตรี ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ มั่นใจว่า ทั้ง 7 ปัจจัยดังกล่าว ทำให้มีส่วนช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลาย แม้ว่าจะเกิดภาวะน้ำท่วม ก็จะไม่รุนแรงเหมือนปีก่อน แต่ปัญหาในการดำเนินการที่ยังล่าช้าอยู่บ้าง ได้แก่ ปัญหาการขุดลอกคูคลอง โครงการจัดหาพื้นที่ที่เป็นแก้มลิง ซึ่งต้องใช้ประมาณ 2 ล้านไร่ แต่ขณะนี้มีพื้นที่เพียง 3.6 แสนไร่ ก็ต้องหากันต่อไป
