ยูไอพี สร้างสถิติตลาดหนังต่างประเทศ เกินเป้าหนึ่งพันล้าน

ยูไอพี (UIP) ประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ในการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย โดยมีภาพยนตร์ออกฉายทั้งหมด 22 เรื่องทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศรวมกันสูงถึง 1000 ล้านบาท ก้าวสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่มียอดรายได้สูงสุดตลอดกาลในปี 2554 ซึ่งได้ผลักดันให้ยอดรายได้รวมของตลาดภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศเข้าสู่หลัก 4,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรก

นายปัณณทัต พรหมสุภา ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัทยูไนเต็ดอินเตอร์เนชั่นแนล พิคเจอร์ (ฟาร์อีสต์) หรือยูไอพี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างสตูดิโอชั้นนำของสหรัฐอเมริกาอันได้แก่ พาราเม้าท์พิคเจอร์ส และยูนิเวอร์แซลพิคเจอร์สเผยว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา นอกจากเป็นการเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ในการดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยยังเป็นปีที่ ยูไอพี ได้สร้างสถิติใหม่ๆมากมายให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในบ้านเราไม่ว่าจะเป็นการเป็นบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ต่างประเทศที่มียอดรายได้สูงสุดตลอดกาลจากยอดบ็อกซ์ออฟฟิศในปี 2554

โดยภาพยนตร์เรื่อง TRANSFORMERS 3 สามารถครองแชมป์ยอดรายได้สูงสุดอันดับหนึ่งตลอดกาลสำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยด้วยยอดรวมประมาณ 300 ล้านบาท และดรีมเวิร์คสแอนิเมชั่นเรื่องดัง KUNG FU PANDA 2 ก็สามารถครองแชมป์ยอดรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลในหมวดของภาพยนตร์แอนิเมชั่นต่างประเทศในไทย

นอกจากนั้น THE PHANTOM OF THE OPERA 25TH ANNIVERSARY ก็สามารถสร้างยอดรายได้เป็นอันดับหนึ่งของภาพยนตร์ประเภทจำกัดโรงฉาย ซึ่งเป็นการยากมากที่ทั้งสถิติดังกล่าวทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้ในปีเดียวกัน รวมถึงภาพยนตร์ดังๆอย่าง THOR, FAST AND FURIOUS 5 , CAPTAIN AMERICA:THE FIRST AVENGER และ MISSION IMPOSSIBLE GHOST PROTOCOL สามารถสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการนำภาพยนตร์คุณภาพหลากหลายเข้าฉายตั้งแต่ต้นปี โดยตอบสนองต่อความต้องการของผู้ชมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์รางวัล อย่าง TRUE GRIT หรือขบวนภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เข้าฉายตลอดทั้งปี เช่น MEGAMIND, RANGO, HOP, PUSS IN BOOTS และ THE ADVENTURES OF TINTIN และ ภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ อย่างเช่น MORNING GLORY, TOWER HEIST หรือ PARANORMAL ACTIVITY 3 นอกจากนั้นยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน Content สำหรับระบบการฉายใหม่ๆให้กับโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบสามมิติเสียงไทย, ระบบสี่มิติ (4D) และ IMAX และสุดท้ายกับการเป็นผู้พัฒนาตลาดใหม่ๆ เช่น การนำ Alternative content บันทึกการแสดงสด THE PHANTOM OF THE OPERA 25TH ANNIVERSARY AT ROYAL ALBERT HALL มาให้แฟนละครเวทีละครเพลงได้ชมกัน

พร้อมเผยถึงกลยุทธ์การตลาดในปี 2555 ว่า จะโฟกัสในเรื่องของการสร้างแบรนด์ ยูไอพี ให้เป็นที่รู้จักในภาพลักษณ์ของผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์คุณภาพ ด้วยความเชื่อที่ว่า แบรนด์เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกชมภาพยนตร์ ดังนั้น แบรนด์ ยูไอพี จะเป็นปัจจัยบวกประการหนึ่งในการให้ความมั่นใจในคุณภาพความบันเทิงของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ พร้อมทั้งวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดให้เหมาะกับภาพยนตร์แต่ละเรื่อง และให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ด้วยการใช้ MARKETING MIX/MEDIA MIX ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนแปลงไปในการเลือกชมภาพยนตร์

นอกจากนี้จะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจ ในเรื่องของ MOVIE MARKETING อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ นำเสนอภาพยนตร์หลากหลายประเภท เข้าสู่ตลาดเพื่อให้ผู้ชมได้มีทางเลือกในการชมภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นผู้นำในการพัฒนาตลาด สำหรับ ALTERNATIVE CONTENT สำหรับโรงภาพยนตร์ในระบบดิจิตอล

สำหรับภาพยนตร์ของ ยูไอพี ในปี 2555 ก็ยังคงแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง BATTLESHIP, GI JOE 2, SNOW WHITE AND THE HUNTSMAN, MADAGASCAR 3, BOURNE LEGACY, 47 RONIN และอีกมากมาย