ASTVผู้จัดการรายวัน - Sure เฟอร์นิเจอร์ มั่นใจไตรมาสแรกปี 55 ดีมานด์เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวขยายตัวสูง เชื่อ ดันยอดขายพุ่ง 130-140 ล้านบาท ชี้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ทดแทนของเก่าที่เสียหาย โดยเร่งการผลิต พร้อมเร่งกำลังการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ลุยกระจายสินค้าลงตลาดให้ทั่วถึง พร้อมจัดแคมเปญมอบส่วนลดพิเศษคู่ค้า หวังกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ มั่นใจเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและน็อกดาวน์ เคลื่อนย้ายได้ง่ายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
นายวิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.ซี.เอฟ.อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบบค้าส่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ และเหล็ก ทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “SURE” กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากการจัดส่งวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ต้องติดขัด ไม่สามารถจัดส่งได้ตามกำหนด เพราะโรงงานทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และ นครปฐม ทำให้การส่งวัตถุดิบในการผลิตต้องหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง ส่งผลให้มูลค่าการผลิตสูญเสียไปกว่า 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการจัดส่งสินค้าไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่มีปัญหาในการส่งมอบสินค้าให้กับร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย
ทั้งนี้ ในส่วนของคู่ค้า ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการจำหน่ายสินค้า ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวไปด้วย ดังนั้น บริษัทจึงได้ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ เพื่อให้คู่ค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ จัดส่งสินค้าไปให้ทันทีที่น้ำลด มอบส่วนลดพิเศษเพื่อชดเชยความเสียหายระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลดแล้ว เชื่อว่า ความต้องการของผู้บริโภคจะขยายตัวเพิ่มขึ้น บริษัทได้เร่งการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 20% เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีปริมาณมากขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณความต้องการที่ตกค้างอยู่เดิมในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วม และปริมาณที่เพิ่มเติมเข้ามาจากความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วม จะทำให้บริษัทมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก โดยสินค้าที่สั่งเข้ามามากเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานเกือบทุกประเภท เฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้าน ในกลุ่มห้องรับรองและชุดครัว ซึ่งได้รับความเสียหายจำนวนมาก
“หลังจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เชื่อว่า เมื่อซ่อมแซมบ้านเรียบร้อย จะเริ่มทยอยซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทดแทนของเก่าที่ได้รับความเสียหาย แต่พฤติกรรมการซื้อจะใช้ความระมัดระวังมากขึ้นหรือมีการบริหารจัดการเงินให้เกิดประสิทธิภาพกว่าปกติ เนื่องจากต้องใช้เงินกับการซ่อมบ้าน และสินค้าบางอย่าง ซึ่งจะดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ อาจส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์มีจำนวนไม่เพียงพอ เพราะผู้ประกอบการบางรายได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงาน ขณะที่ Sure นั้นน้ำเข้าโรงงานเฉพาะรอบนอก หลังจากน้ำลดจึงเร่งการผลิตได้ทันที และมีสินค้าสต๊อกเพียงพอ คาดว่า จากดีมานด์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้ยอดขายในไตรมาสแรกสูง130-140 ล้านบาท”
นายวิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับความนิยมเฟอร์นิเจอร์ หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ของผู้บริโภคหลังจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เชื่อว่า จะให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงเพิ่มมากขึ้น และจากการสำรวจและวิเคราะห์ของฝ่ายการตลาด พบว่า ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและหันไปใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงยังมีไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่จมน้ำนานกว่า 1 สัปดาห์ขึ้นไป ก็เกิดความเสียหายได้เช่นกัน ยิ่งแช่น้ำนานการซ่อมกลับคืนมาให้ใกล้เคียงของเดิมยิ่งทำให้ยาก ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์แบบลอยตัวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่า เพราะมีน้ำหนักเบากว่า เคลื่อนย้ายได้ง่ายเหมาะกับยุควิกฤตน้ำท่วม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ซึ่งทางบริษัทจึงเน้นการผลิตเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์แบบลอยตัว และเพิ่มเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อให้การผลิตสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เต็มที่ และทันเวลา
ส่วนการแข่งขันนตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปัจจุบันนั้น มองว่า โรงงานขนาดย่อมมีข้อได้เปรียบรายใหญ่ เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโรงงาน ขณะที่คู่แข่งขันรายใหญ่ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย แต่ยังมีปัญหา เพราะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าทีนิยมใช้เวลาว่างในการตกแต่งบ้าน ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการกระจายสินค้า ส่วนการขยายตัวของห้างค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่นั้นเชื่อว่า จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ในตลาดให้ขยายตัวมากขึ้น
“การเข้ามาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ มองในอีกมุมหนึ่งเป็นการกระตุ้นตลาด ทำให้เกิดการขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากเกิดการแข่งขันทั้งในด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายไปยังผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวให้ความสนใจในเฟอร์นิเจอร์มากยิ่งขึ้น”
นายวิรัตน์ โรจยารุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.ซี.เอฟ.อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแบบค้าส่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ และเหล็ก ทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “SURE” กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากการจัดส่งวัตถุดิบในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ต้องติดขัด ไม่สามารถจัดส่งได้ตามกำหนด เพราะโรงงานทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และ นครปฐม ทำให้การส่งวัตถุดิบในการผลิตต้องหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง ส่งผลให้มูลค่าการผลิตสูญเสียไปกว่า 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมความพร้อมในการจัดส่งสินค้าไว้ล่วงหน้า ทำให้ไม่มีปัญหาในการส่งมอบสินค้าให้กับร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย
ทั้งนี้ ในส่วนของคู่ค้า ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการจำหน่ายสินค้า ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบดังกล่าวไปด้วย ดังนั้น บริษัทจึงได้ให้ความช่วยเหลือเต็มที่ เพื่อให้คู่ค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ จัดส่งสินค้าไปให้ทันทีที่น้ำลด มอบส่วนลดพิเศษเพื่อชดเชยความเสียหายระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้จากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากน้ำลดแล้ว เชื่อว่า ความต้องการของผู้บริโภคจะขยายตัวเพิ่มขึ้น บริษัทได้เร่งการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 20% เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีปริมาณมากขึ้น นอกจากนี้ ปริมาณความต้องการที่ตกค้างอยู่เดิมในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วม และปริมาณที่เพิ่มเติมเข้ามาจากความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายจากเหตุน้ำท่วม จะทำให้บริษัทมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก โดยสินค้าที่สั่งเข้ามามากเป็นกรณีพิเศษ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานเกือบทุกประเภท เฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้าน ในกลุ่มห้องรับรองและชุดครัว ซึ่งได้รับความเสียหายจำนวนมาก
“หลังจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เชื่อว่า เมื่อซ่อมแซมบ้านเรียบร้อย จะเริ่มทยอยซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทดแทนของเก่าที่ได้รับความเสียหาย แต่พฤติกรรมการซื้อจะใช้ความระมัดระวังมากขึ้นหรือมีการบริหารจัดการเงินให้เกิดประสิทธิภาพกว่าปกติ เนื่องจากต้องใช้เงินกับการซ่อมบ้าน และสินค้าบางอย่าง ซึ่งจะดีมานด์ที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ อาจส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์มีจำนวนไม่เพียงพอ เพราะผู้ประกอบการบางรายได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโรงงาน ขณะที่ Sure นั้นน้ำเข้าโรงงานเฉพาะรอบนอก หลังจากน้ำลดจึงเร่งการผลิตได้ทันที และมีสินค้าสต๊อกเพียงพอ คาดว่า จากดีมานด์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้ยอดขายในไตรมาสแรกสูง130-140 ล้านบาท”
นายวิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับความนิยมเฟอร์นิเจอร์ หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ของผู้บริโภคหลังจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เชื่อว่า จะให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงเพิ่มมากขึ้น และจากการสำรวจและวิเคราะห์ของฝ่ายการตลาด พบว่า ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและหันไปใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงยังมีไม่มาก ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่จมน้ำนานกว่า 1 สัปดาห์ขึ้นไป ก็เกิดความเสียหายได้เช่นกัน ยิ่งแช่น้ำนานการซ่อมกลับคืนมาให้ใกล้เคียงของเดิมยิ่งทำให้ยาก ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์แบบลอยตัวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่า เพราะมีน้ำหนักเบากว่า เคลื่อนย้ายได้ง่ายเหมาะกับยุควิกฤตน้ำท่วม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก ซึ่งทางบริษัทจึงเน้นการผลิตเฟอร์นิเจอร์น็อกดาวน์แบบลอยตัว และเพิ่มเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อให้การผลิตสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เต็มที่ และทันเวลา
ส่วนการแข่งขันนตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปัจจุบันนั้น มองว่า โรงงานขนาดย่อมมีข้อได้เปรียบรายใหญ่ เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูโรงงาน ขณะที่คู่แข่งขันรายใหญ่ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย แต่ยังมีปัญหา เพราะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าทีนิยมใช้เวลาว่างในการตกแต่งบ้าน ยังมีข้อจำกัดในเรื่องการกระจายสินค้า ส่วนการขยายตัวของห้างค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่นั้นเชื่อว่า จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ในตลาดให้ขยายตัวมากขึ้น
“การเข้ามาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ มองในอีกมุมหนึ่งเป็นการกระตุ้นตลาด ทำให้เกิดการขยายตัวของตลาดเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากเกิดการแข่งขันทั้งในด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขายไปยังผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวให้ความสนใจในเฟอร์นิเจอร์มากยิ่งขึ้น”