xs
xsm
sm
md
lg

“ตรางู” ลุยครบเครื่องรับเออีซี ปัดฝุ่นสินค้าเก่า-ดึงมืออาชีพร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“อังกฤษตรางู” เคลื่อนทัพรับครบรอบ 120 ปี พร้อมรับมือเออีซี หลังเข้าสู่รุ่นที่ 4 หวังดันสู่โกลบอลแบรนด์ ทุ่มงบตลาด 350 ล้านบาทลุยครบสูตร ดึงสินค้าเก่าปัดฝุ่นใหม่ เล็งผุดโรงงานต่างประเทศในอนาคต

นายอนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท อังกฤษตรางู ร่วมกับนายสุธีร์ รัตนนาคินทร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อการรุกตลาดหลังจากที่บริษัทก่อตั้งมานานครบ 120 ปี และเข้าสู่รุ่นที่ 4 ของธุรกิจแล้ว รวมทั้งเป็นการปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปิดเออีซีหรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ด้วย และปรับการบริหารองค์กรให้มีความเป็นครอบครัวแบบมืออาชีพอย่างเป็นระบบมุ่งสู่ความเป็นสากล ซึ่งปีที่แล้วได้เปิดโครงการรีครูทนักบริหารที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จเข้ามาร่วมบริหารจำนวน 9 ราย ในด้านการตลาด การบริหาร การจัดการ การบุคคล การขาย การผลิต เป็นต้น โดยโครงการนี้ใช้ระยะเวลา 3 ปี

ขณะเดียวกันจะผลักดันสินค้าของบริษัทให้เป็นรีจินัลแบรนด์ก่อนที่จะผลักดันสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ในอนาคต เริ่มที่ตลาดอาเซียนจากการเปิดเออีซี ในปี 2558 ซึ่งบริษัทได้รุกตลาดต่างประเทศบ้างแล้ว เช่น ในอาเซียนมี 7 ประเทศแล้ว ไม่รวมบรูไนกับเวียดนามที่ยังไม่ได้ทำตลาด ยังมี จีน ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดหลัก นอกนั้นเป็นตะวันออกกลาง แอฟริกา เป็นต้น ซึ่งต่อไปอาเซียนจะเป็นตลาดเดียวกัน ไม่มีกำแพงภาษีกีดกันอีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขยายตลาดต่างประเทศต่อเนื่องด้วยรูปแบบทั้ง การตั้งเอเย่นต์ หรือการทำตลาดผ่านดิสทริบิวเตอร์ การรับโออีเอ็ม ส่วนแผนการลงทุนตั้งโรงงานในต่างประเทศนั้นยังไม่สรุป ต้องขึ้นอยู่กับโอกาสและความเหมาะสม เพราะแต่ละประเทศมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ต้องคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลักคือ 1.กฎหมายเกี่ยวกับเอฟดีเอของประเทศนั้น 2.การส่งเสริมการลงทุนของประเทศนั้น และ 3.ตลาดประเทศนั้นเป็นอย่างไร โดยฐานผลิตหลักเวลานี้ยังอยู่ที่ประเทศไทย มี 2 โรงงานหลัก

สำหรับแผนการตลาดปีนี้จะใช้งบประมาณด้านการตลาดรวม 350 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตลาดเชิงรุก หวังสร้างยอดขายให้มีการเติบโต10-15% จากปีก่อนมีรายได้ 2,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 10-15% เช่นกัน แยกสัดส่วนรายได้มาจากในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% โดยจะทำการรีลอนช์และรีแบรนด์สินค้าของบริษัทใหม่ นำแบรนด์สินค้าเดิมที่ไม่ได้ทำตลาดกลับมาทำใหม่ เช่น แป้งน้ำควินนา โคโลญจ์ซัมเมอร์ฮิต และแป้งเด็กเซนต์ลุกซ์ ซึ่งแบรนด์เหล่านี้มีมานานกว่า 60 ปี ผ่านแนวทางการใส่นวัตกรรมเข้าไปตัวสินค้ารวมทั้งการปรับแพกเกจจิ้งให้มีความทันสมัย และจะเจาะตลาดแบบนิชมาร์เก็ต ส่วนสินค้าหลัก 6 แบรนด์จะรุกตลาดต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น แป้งเย็นตรางู ยากันยุงสกีนโทลีน สกาแคร์ ทีทรี เป็นต้น ที่ผ่านมาได้ทำการรีเฟรชแบรนด์แป้งตรางูไปแล้ว รวมทั้งแบรนด์ทีทรีด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับสูตรใหม่และรีโพซิชันนิ่งใหม่กับแบรนด์สกาแคร์ คาดว่าแบรนด์ต่อไปคือ สกีนโทลีน เพื่อการสร้างแบรนด์สินค้าให้มีความเป็นสากลมากขึ้น

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทมี 6 บริษัทในเครือประกอบด้วย บริษัท ห้างขายยาอังกฤษตรางู จำกัด รับโออีเอ็มสินค้าส่วนตัว เพื่อสุขภาพ เวชภัณฑ์และอาหารเสริม ใน 15 ประเทศ, 2.บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ผลิตและจำหน่ายสินค้าของส่วนตัว เพื่อสุขภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหร มี 4 โรงงานในแห่งเดียวที่ถนนเทพารักษ์, 3.บริษัท ฟาร์มาคอสเม็ท จำกัด (มหาชน) ดูแลการทำตลาดผลิตภัณฑ์สกาแคร์และทีทรี, 4.บริษัท ที.โอ.พี. คอสเมติกส์ แอนด์ แมนูแฟคเจอร์ จำกัด ผลิตสินค้าดูแลผิวพรรณ รับจ้างโออีเอ็มผลิตภัณฑ์ดูผิวพรรณ, 5.บริษัท วี.เอ็ม.วี. (ประเทศไทย) จำกัด จัดจำหน่ายสินค้าเวชสำอางแบรนด์วีเอ็มวี และ 6. บริษัท ดีดี เทรดดิ้ง จำกัด จัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทในเครือ
กำลังโหลดความคิดเห็น