บอร์ดแข่งขันสั่งตั้งกรรมการสอบสวน เทสโก้ โลตัส กรณีฉกคูปองห้างบิ๊กซี คาร์ฟูร์ไปใช้ประโยชน์ดึงลูกค้าเข้าห้าง พร้อมตั้งอนุเชี่ยวชาญดูข้อเท็จจริงกรณีหาประโยชน์จากบัตรคาร์ฟูร์ไอริช แต่สั่งยุติเรื่องโรแบ็คขายสินค้าต่ำกว่าทุน
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า วานนี้ (16 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง นำคูปองส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการอีกรายหนึ่งที่ออกมาใช้ โดยหากประชาชนนำคูปองดังกล่าวมาใช้ที่ร้านของตนเองจะได้รับมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งกรรมการเห็นว่ามีมูลจึงให้ดำเนินการสอบสวนต่อ หลังจากที่อนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องได้เสนอเรื่องเข้ามา แต่ไม่อยากจะให้ข้อมูลว่าใครเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ได้ยุติการพิจารณาในกรณีที่มีการร้องเรียนผู้ประกอบการรายหนึ่งว่ามีการขายสินค้าในราคาต่ำกว่าทุน เพราะเห็นว่าเป็นการดำเนินการในช่วงสั้นๆ แต่ได้มีความเห็นเพิ่มเติมให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการขายต่ำกว่าทุนว่า การทำตลาดโดยการขายสินค้าต่ำกว่าทุนและทำเป็นนโยบายต่อเนื่อง เพื่อโน้มน้าวลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เป็นการปฏิบัติที่ไม่ควรสนับสนุน เพราะมีความเสียหายต่อระบบการค้า ควรจะดำเนินการเฉพาะสินค้าที่ตกแฟชั่น หรือสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
นอกจากนี้ ได้ขอให้มีการปรับปรุงแนวทางการพิจารณาเรื่องร้องเรียน เพราะเห็นว่า กว่าแต่ละเรื่องจะได้รับการพิจารณามีขั้นตอนมาก และบางกรณีใช้เวลาเป็นหลายๆ ปี ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจำข้อมูลไม่ได้ หรือผู้เสียหายไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที โดยมีมติให้การดำเนินการเรื่องร้องเรียนใดๆ จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภาย 1 ปี นับจากรับเรื่องร้องเรียนเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการใช้คูปอง ห้างบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ร้องเรียน เทสโก้ โลตัส ที่ได้โฆษณาให้ลูกค้านำคูปองส่งเสริมการขายของบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ที่ได้ออกมาใช้เพื่อทำการส่งเสริมการขายให้สามารถนำมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และยังให้คูปองมีค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าจากราคาหน้าคูปอง โดยคณะกรรมการได้ตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องขึ้นมาพิจารณา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2554 ที่ผ่านมา และเสนอให้กรรมการฯ พิจารณา โดยเห็นว่าผิดมาตรา 25 และ 29 ของ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 และได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเทสโก้ โลตัส ขายสินค้าต่ำกว่าทุน โดยออกแคมเปญ โรลแบ็ก โดยพิจารณาสินค้าจำนวน 11 รายการ ซึ่งมี 5 รายการที่ขายต่ำกว่าทุน แต่ก็เป็นการดำเนินการเพียงระยะเวลาสั้นๆ จึงได้มีมติให้ยุติการพิจารณา
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องพิจารณากรณีที่บิ๊กซี ได้ร้องเรียนเทสโก้ โลตัส กรณีออกโฆษณาให้ผู้บริโภคที่ถือบัตรสมาชิกคาร์ฟูร์ไอวิช แล้วส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) ไปที่เทสโก้ โลตัส เพื่อรับบัตรกำนัล และยังให้พนักงานไปยืนแจกแผ่นพับโฆษณาในบริเวณใกล้สถานประกอบการของบิ๊กซีหลายสาขา สร้างความเสียหายให้แก่บิ๊กซีในฐานะผู้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เจ้าของกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทย
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า วานนี้ (16 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนกรณีมีผู้ประกอบการรายหนึ่ง นำคูปองส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการอีกรายหนึ่งที่ออกมาใช้ โดยหากประชาชนนำคูปองดังกล่าวมาใช้ที่ร้านของตนเองจะได้รับมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งกรรมการเห็นว่ามีมูลจึงให้ดำเนินการสอบสวนต่อ หลังจากที่อนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องได้เสนอเรื่องเข้ามา แต่ไม่อยากจะให้ข้อมูลว่าใครเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับธุรกิจ
ขณะเดียวกัน ได้ยุติการพิจารณาในกรณีที่มีการร้องเรียนผู้ประกอบการรายหนึ่งว่ามีการขายสินค้าในราคาต่ำกว่าทุน เพราะเห็นว่าเป็นการดำเนินการในช่วงสั้นๆ แต่ได้มีความเห็นเพิ่มเติมให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ในการขายต่ำกว่าทุนว่า การทำตลาดโดยการขายสินค้าต่ำกว่าทุนและทำเป็นนโยบายต่อเนื่อง เพื่อโน้มน้าวลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ เป็นการปฏิบัติที่ไม่ควรสนับสนุน เพราะมีความเสียหายต่อระบบการค้า ควรจะดำเนินการเฉพาะสินค้าที่ตกแฟชั่น หรือสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
นอกจากนี้ ได้ขอให้มีการปรับปรุงแนวทางการพิจารณาเรื่องร้องเรียน เพราะเห็นว่า กว่าแต่ละเรื่องจะได้รับการพิจารณามีขั้นตอนมาก และบางกรณีใช้เวลาเป็นหลายๆ ปี ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจำข้อมูลไม่ได้ หรือผู้เสียหายไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที โดยมีมติให้การดำเนินการเรื่องร้องเรียนใดๆ จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภาย 1 ปี นับจากรับเรื่องร้องเรียนเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการใช้คูปอง ห้างบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ได้ร้องเรียน เทสโก้ โลตัส ที่ได้โฆษณาให้ลูกค้านำคูปองส่งเสริมการขายของบิ๊กซี และ คาร์ฟูร์ ที่ได้ออกมาใช้เพื่อทำการส่งเสริมการขายให้สามารถนำมาใช้ได้ที่เทสโก้ โลตัส และยังให้คูปองมีค่าเพิ่มเป็น 2 เท่าจากราคาหน้าคูปอง โดยคณะกรรมการได้ตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องขึ้นมาพิจารณา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2554 ที่ผ่านมา และเสนอให้กรรมการฯ พิจารณา โดยเห็นว่าผิดมาตรา 25 และ 29 ของ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 และได้ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนเทสโก้ โลตัส ขายสินค้าต่ำกว่าทุน โดยออกแคมเปญ โรลแบ็ก โดยพิจารณาสินค้าจำนวน 11 รายการ ซึ่งมี 5 รายการที่ขายต่ำกว่าทุน แต่ก็เป็นการดำเนินการเพียงระยะเวลาสั้นๆ จึงได้มีมติให้ยุติการพิจารณา
นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องพิจารณากรณีที่บิ๊กซี ได้ร้องเรียนเทสโก้ โลตัส กรณีออกโฆษณาให้ผู้บริโภคที่ถือบัตรสมาชิกคาร์ฟูร์ไอวิช แล้วส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) ไปที่เทสโก้ โลตัส เพื่อรับบัตรกำนัล และยังให้พนักงานไปยืนแจกแผ่นพับโฆษณาในบริเวณใกล้สถานประกอบการของบิ๊กซีหลายสาขา สร้างความเสียหายให้แก่บิ๊กซีในฐานะผู้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เจ้าของกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทย