“บิ๊กซี” ยื่นศาลแพ่งฟ้อง “เทสโก้” แทรกแซงการประกอบกิจการ แข่งขันไม่เป็นธรรม ละเมิดสิทธิการค้าและการตลาด เพื่อฉกลูกค้าบัตรสมาชิก โดยเรียกค่าเสียหายตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ค.54 จำนวนกว่า 415 ล้านบาท ยันต้องการให้เป็นบทเรียน และสร้างมาตรฐานด้านจรรยาบรรณการค้า เพราะกรณีดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย
นายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารห้างค้าปลีก “บิ๊กซี” เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่ง กรณีบริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารธุรกิจห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัส ในฐานกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 และการแทรกแซงการประกอบธุรกิจของผู้อื่น เรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 415.67 ล้านบาท
“สำหรับเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจยื่นฟ้องนั้น เนื่องจากโลตัสได้ทำการละเมิดสิทธิทางการค้าและการตลาด หลายครั้ง ด้วยการนำสัญลักษณ์ เครื่องมือ และกลไกทางการตลาด ไปใช้จัดทำแคมเปญโฆษณา และส่งเสริมการขายเพื่อประโยชน์ของตนอย่างโจ่งแจ้งถึง 2 ครั้ง ซึ่งการแทรกแซงในลักษณะดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย”
ทั้งนี้ โลตัสได้กระทำการละเมิดสิทธิทางการค้า และการตลาด ด้วยการนำสัญลักษณ์เครื่องมือ และกลไกตลาดของบริษัทไปใช้ในการจัดแคมเปญโฆษณาและส่งเสริมการขาย เพื่อประโยชน์ของตน ด้วยการออกโฆษณาให้ผู้บริโภคที่ถือบัตรสมาชิก คาร์ฟูร์ไอวิช ส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ไปยังห้างเทสโก้ฯ เพื่อรับบัตรกำนัล และมีการให้พนักงานยืนแจกแผ่นพับโฆษณาดังกล่าวในบริเวณใกล้สถานประกอบการของบิ๊กซีหลายสาขา ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่บริษัท บิ๊กซีฯ ซึ่งเป็นผู้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกห้างคาร์ฟูร์ (เดิม) ในประเทศไทย ถึง 2 ครั้ง คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ถึงเดือนกรกฎาคม 2554
ทั้งนี้ หากคู่กรณียังคงสามารถดำเนินโครงการในลักษณะดังกล่าวได้ต่อไปก็จะเป็นผลเสียอย่างยิ่งต่อชื่อเสียงและการดำเนินงานของบริษัท อีกทั้งอาจจะนำผลเสียในระยะยาวมาสู่มาตรฐานและจรรยาบรรณของการดำเนินการตลาดในทุกภาคธุรกิจของไทย มิใช่เฉพาะในธุรกิจค้าปลีก
สำหรับค่าเสียหายมูลค่าดังกล่าว บริษัทได้คำนวณจากผลกระทบทางธุรกิจที่เกิดขึ้นจากการที่ธุรกิจสูญเสียรายได้ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ถึงเดือนกรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา และความเสียหายที่กระทบกับภาพลักษณ์ของบริษัท ซึ่งได้ยื่นฟ้องร้องบริษัทเอกชัยฯ รวมแล้ว 2 คดี ได้แก่ คดีแรกได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรณี บริษัทเอกชัย ฯ กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และทางคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า จะเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไปให้ข้อมูลในเร็วๆนี้ และกรณีล่าสุดได้ยื่นกับศาลแพ่ง
“เบื้องต้นบริษัทฯ จะฟ้องร้องบริษัท เอกชัย เพียงแค่ 2 คดีเท่านั้น แต่หากทางบริษัทเอกชัยฯ ไม่หยุดกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับบริษัท จากการนำสัญลักษณ์และกลไกตลาดของบริษัทไปใช้ในการจัดแคมเปญโฆษณาและส่งเสริมการขายจนส่งผลกระทบกับบริษัทอีกจะเดินหน้าฟ้องร้องในคดีอื่นๆ ต่อไป”
นายกุฎาธารกล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับจรรยาบรรณและมาตรฐานของการดำเนินการตลาด ที่ทุกบริษัทน่าจะมุ่งดำเนินการตลาดอย่างสร้างสรรค์ และให้เกียรติเพื่อนร่วมธุรกิจ นอกจากนี้ การที่บริษัทฟ้องร้องนอกจากเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจของบริษัทแล้ว ยังทำเพื่อสร้างมาตรฐานการทำธุรกิจให้กับภาคธุรกิจ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคในระยะยาว
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม ผู้บริหารห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆ ต่อกรณีฟ้องร้องดังกล่าวของบริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นตอร์ และบริษัทเซ็นคาร์ ผู้บริหารห้างค้าปลีกบิ๊กซี ซึ่งหากบริษัทได้รับหมายศาลแล้วจริง ก็มีความพร้อมจะดำเนินการชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในขั้นตอนต่อไป