ASTVผู้จัดการรายวัน - กรมส่งเสริมการส่งออก เชิญนักธุรกิจ 2 พันคน ฟังแผนบริหารจัดการน้ำ 14 ม.ค.นี้ มี “โต้ง-กยน.-กยอ.” ร่วมชี้แจง “ศิริวัฒน์” สั่งช่วยเอกชนเต็มที่ ห่วงส่งออกไตรมาสแรกชะงัก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ กรมฯ จะเชิญนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ที่มีโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บริษัทประกันภัย สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ และหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพฯ และผู้สนใจทั่วไป ประมาณ 2,000 คน มารับฟังแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศจากรัฐบาล นำโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และองค์การความร่วมมือระหว่าประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำในนิคมอุตสาหกรรม ที่โรงละครสยามนิรมิต
เป้าหมายในการจัดงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการทราบว่า ประเทศไทยมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างไร ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการว่า จะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่เหมือนในช่วงที่ผ่านมาในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และในประเทศไทย จนส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้า และการส่งออกของไทยอีก เพื่อให้ผู้ประกอบการยังคงมั่นใจ ที่จะลงทุนในไทยต่อไป และไม่ย้ายฐานการผลิต
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ซึ่งภาคเอกชนได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของการเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในกลุ่มส่งออก ที่มีความเป็นห่วงว่าการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกได้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการส่งออกหามาตรการเยียวยาผู้ส่งออก โดยให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก อำนวยความสะดวกทุกรูปแบบแก่ผู้ส่งออก พร้อมทั้งมีการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ www.thaitrade.com เพื่อเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนสามารถทำการส่งออกได้รวดเร็วและในปริมาณที่สูงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกทั้งปีที่ 15% โดยได้เตรียมแผนแก้ไขปัญหาการส่งออกที่คาดว่า จะชะลอตัวลง โดยมุ่งเน้นการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะอาเซียน ที่จะมีการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ร่วมกับภาคเอกชนให้มากขึ้น และในวันที่ 13-15 ก.พ.นี้ จะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกร่วมกับทูตพาณิชย์อีกครั้งด้วย
ส่วนการอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ กับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงไทย กรุงเทพ และ ออมสิน และกำลังจะดำเนินการให้ผู้ประกอบการยื่นงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นตอนต่อไป
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ กรมฯ จะเชิญนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ที่มีโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 7 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บริษัทประกันภัย สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ และหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพฯ และผู้สนใจทั่วไป ประมาณ 2,000 คน มารับฟังแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศจากรัฐบาล นำโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และองค์การความร่วมมือระหว่าประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำในนิคมอุตสาหกรรม ที่โรงละครสยามนิรมิต
เป้าหมายในการจัดงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการทราบว่า ประเทศไทยมีแผนบริหารจัดการน้ำอย่างไร ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการว่า จะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่เหมือนในช่วงที่ผ่านมาในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และในประเทศไทย จนส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้า และการส่งออกของไทยอีก เพื่อให้ผู้ประกอบการยังคงมั่นใจ ที่จะลงทุนในไทยต่อไป และไม่ย้ายฐานการผลิต
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ซึ่งภาคเอกชนได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของการเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในกลุ่มส่งออก ที่มีความเป็นห่วงว่าการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกได้ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการส่งออกหามาตรการเยียวยาผู้ส่งออก โดยให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก อำนวยความสะดวกทุกรูปแบบแก่ผู้ส่งออก พร้อมทั้งมีการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ www.thaitrade.com เพื่อเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนสามารถทำการส่งออกได้รวดเร็วและในปริมาณที่สูงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงยืนยันเป้าหมายการส่งออกทั้งปีที่ 15% โดยได้เตรียมแผนแก้ไขปัญหาการส่งออกที่คาดว่า จะชะลอตัวลง โดยมุ่งเน้นการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะอาเซียน ที่จะมีการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ร่วมกับภาคเอกชนให้มากขึ้น และในวันที่ 13-15 ก.พ.นี้ จะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกร่วมกับทูตพาณิชย์อีกครั้งด้วย
ส่วนการอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ กับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ กรุงไทย กรุงเทพ และ ออมสิน และกำลังจะดำเนินการให้ผู้ประกอบการยื่นงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในขั้นตอนต่อไป