“วีรพงษ์” ตำหนิ ธปท.ขวาง พ.ร.ก.โอนหนี้ ชอบทำตัวเป็นรัฐอิสระ ขัดหลักประชาธิปไตย โวยทำให้สังคมไม่ไว้วางใจ รมว.คลัง-นักการเมือง ทั้งที่ได้รับเลือกมาจาก ปชช.“กิตติรัตน์” ชี้ หนี้ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าที่ไหน ก็เป็นหนี้ของประเทศ ดังนั้น หนี้ที่เกิดขึ้นจากตรงไหนจึงควรอยู่ตรงนั้น พร้อมเตือน ธปท.อย่าลืมสัญญาที่พูดไว้
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) กล่าวในรายการยิ่งลักษณ์พบประชาชน กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มาให้ ธปท.ในส่วนของมาตรา 7(3) ที่คล้ายกับว่า ต้องการให้ ธปท.โอนหรือเขียนเช็กเปล่าให้กับรัฐบาลนั้น ตนเองมองว่า สังคมไทยไว้ใจ ธปท.แต่ไม่ไว้ใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นักการเมือง ซึ่งเรื่องนี้เป็นมาตั้งแต่ในอดีต
“ถ้าปิดประตู ถ้าไม่ให้ รมว.คลัง ทำกำไรได้ แบงก์ชาติ (ธปท.) ก็เป็นรัฐอิสระ และชอบพูดให้สังคมไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ขัดหลักประชาธิปไตย เพราะรัฐมนตรี นักการเมือง มาจากประชาชน แบงก์ชาติไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาพูดให้ไม่ไว้วางใจนักการเมือง”
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับการคิดค่าธรรมเนียมสถาบันการเงินเพิ่ม หลังออก พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ นายวีรพงษ์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของ ธปท.ที่ต้องไปดูแล หากไม่ทำอะไรเลยหนี้ก้อนดังกล่าวของกองทุนฟื้นฟูฯ คงเป็นหนี้ไปตลอดกัลปาวสาน
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า หนี้ที่มีอยู่ ไม่ว่าจะที่ไหน ก็เป็นหนี้ของประเทศ ดังนั้น หนี้ที่เกิดขึ้นจากตรงไหนจึงควรอยู่ตรงนั้น และทาง ธปท.เองเคยบอกว่าจะรับผิดชอบ ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2541 กระทรวงการคลังได้ออกเงินชดใช้หนี้ให้ก่อน ซึ่งทาง ธปท.บอกเองว่าจะให้ตามหลัง