นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวชี้แจงถึงการออก พ.ร.ก.การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ว่าในการออก พ.ร.ก.ดังกล่าว จะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เข้ามาเป็นผู้กำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ ในการแก้ไขปัญหาเงินต้นและดอกเบี้ย โดยแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ในการจัดหาเงิน ประกอบด้วย 1.กำไรของ ธปท. 2.รายได้จากการบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และ 3.จากการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมของ ธปท.จากธนาคารพาณิชย์ โดยการเรียกเก็บในส่วนของเงินค่าธรรมเนียมนั้น จะกำหนดอัตราตามเดิม โดยไม่เกินกรอบกฎหมาย ที่ร้อยละ 0.1
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของการออก พ.ร.ก. 350,000 ล้านบาท ที่เป็นเงินกู้ เพื่อนำมาฟื้นฟูและป้องกันปัญหาอุทกภัย เป็นลักษณะการออกพันธบัตร หรือ บอนด์ในประเทศ ซึ่งเป็นภาระหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้น
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในส่วนของการออก พ.ร.ก. 350,000 ล้านบาท ที่เป็นเงินกู้ เพื่อนำมาฟื้นฟูและป้องกันปัญหาอุทกภัย เป็นลักษณะการออกพันธบัตร หรือ บอนด์ในประเทศ ซึ่งเป็นภาระหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2-3 เท่านั้น