ASTVผู้จัดการรายวัน - บพ.จับมือ “ทอท.-บวท.” เร่งฟื้นฟูสนามบินดอนเมือง เปิดเชิงพาณิชย์ ก.พ.เร็วกว่าแผนเดิม 1 เม.ย.55 ดึงนกแอร์และโอเรียนท์ไทยฯ กลับ ช่วยลดแออัดสนามบินสุวรรณภูมิ เผยจำนวนผู้โดยสารล้นทะลัก เที่ยวบินทำสถิติ 1,000 เที่ยวบิน/ชั่วโมง “อธิบดี บพ.”เผยสำรวจแล้วไม่มีปัญหา ระบบนำร่องซ่อมเสร็จ ม.ค.นี้
นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยว่า จากนโยบายพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้หน่วยงานด้านขนส่งทางอากาศบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยกรมการบินพลเรือนได้ประสานกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เร่งปรับปรุงระบบต่างๆของท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนก.พ.2555 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 เม.ย.2555 โดยจะให้สายการบินพาณิชย์ ทั้งสายการบินนกแอร์ และ โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ทำการบินที่รันเวย์ทิศตะวันออกก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังระดับน้ำภายในสนามบินดอนเมืองลดลง เจ้าหน้าที่ของ บพ., ทอท.และ บวท.ได้เข้าสำรวจความเสียหาย และพบว่า ในภาพรวมสนามบินยังมีความสมบูรณ์ การทดสอบรันเวย์ทั้งทิศตะวันออก และตะวันตก พบว่า ยังมีความแข็งแรง ซึ่งจากการหารือกับผู้บริหารบวท.ยืนยันว่าจะปรับปรุงระบบนำร่องได้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2555 ส่วน ทอท.จะเร่งปรับปรุงรันเวย์ในฝั่งตะวันออก เนื่องจากได้รับความเสียหายน้อยกว่ารันเวย์ฝั่งตะวันตก ติดตั้งระบบไฟนำทาง ปรับปรุงอาคารโดยสาร จากนั้น บพ.จะตรวจอีกครั้งเพื่อออกใบรับรองให้สนามบินในการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์
“การเปิดสนามบินดอนเมืองเร็วขึ้น นอกจากจะเรียกความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมาแล้ว ยังช่วยลดความแออัดที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งขณะนี้มีเที่ยวบินและผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้เกิดความไม่สะดวก หากย้ายเที่ยวบินของนกแอร์ และ โอเรียนท์ ไทยฯ แม้จะเพียงบางส่วนอาจจะไม่ทั้งหมดที่เคยทำการบินที่สนามบินดอนเมืองก็จะช่วยลดความแออัดได้อย่างแน่นอน ซึ่ง ทอท.จะประสานกับสายการบินเพื่อเตรียมพร้อมแล้ว” นายวรเดช กล่าว
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การฟื้นฟูรันเวย์ด้านตะวันออกด้านฝั่งทหารอากาศใช้งบประมาณ 489.2 ล้านบาท ดำเนินการใน 60 วัน กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2555 แน่นอน และเพื่อรองรับการเปิดใช้เชิงพาณิชย์เร็วขึ้น ทอท.จะเร่งปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ซึ่งไม่น่ามีปัญหา ส่วนการปรับปรุงรันเวย์ตะวันตก ตามแผนแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือน มี.ค.2555 ทั้งนี้ การย้ายนกแอร์และโอเรียนท์ไทยฯ กลับมาจะทำได้ในเดือน ก.พ.โดยใช้รันเวย์ตะวันตกในการขึ้น-ลงได้
ด้าน นาวาอากาศตรี ประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.กล่าวว่า บวท.ได้เข้าสำรวจและซ่อมแซมอุปกรณ์ระบบเครื่องช่วยการเดินอากาศที่ได้รับความเสียหายเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จากเดิมที่ประเมินว่าจะใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งอุปกรณ์มีประกันภัยช่วยบางส่วน โดยระบบการควบคุมการจราจรทางอากาศจะสามารถใช้งานได้ในเดือน ม.ค.2555 ส่วนการให้บริการเชิงพาณิชย์จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก บพ.และความพร้อมของสนามบินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.
อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว ปริมาณจราจรทางอากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิสูงมาก เฉลี่ย 800-900 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และได้ทำสถิติสูงสุดถึง 1,000 เที่ยวบินต่อชั่วโมงแล้ว ขณะที่ขีดความสามารถรันเวย์รองรับได้สูงสุด 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ทำให้เกิดความแออัด ซึ่งบวท.ใช้การบริหารจัดการเที่ยวบิน โดยประสานสายการบินตั้งแต่ต้นทางเพื่อไม่ให้สายการบินต้องบินวนเพื่อรอลงจอด ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้
นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) เปิดเผยว่า จากนโยบายพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้หน่วยงานด้านขนส่งทางอากาศบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยกรมการบินพลเรือนได้ประสานกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เร่งปรับปรุงระบบต่างๆของท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนก.พ.2555 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 เม.ย.2555 โดยจะให้สายการบินพาณิชย์ ทั้งสายการบินนกแอร์ และ โอเรียนท์ ไทย แอร์ไลน์ทำการบินที่รันเวย์ทิศตะวันออกก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังระดับน้ำภายในสนามบินดอนเมืองลดลง เจ้าหน้าที่ของ บพ., ทอท.และ บวท.ได้เข้าสำรวจความเสียหาย และพบว่า ในภาพรวมสนามบินยังมีความสมบูรณ์ การทดสอบรันเวย์ทั้งทิศตะวันออก และตะวันตก พบว่า ยังมีความแข็งแรง ซึ่งจากการหารือกับผู้บริหารบวท.ยืนยันว่าจะปรับปรุงระบบนำร่องได้แล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2555 ส่วน ทอท.จะเร่งปรับปรุงรันเวย์ในฝั่งตะวันออก เนื่องจากได้รับความเสียหายน้อยกว่ารันเวย์ฝั่งตะวันตก ติดตั้งระบบไฟนำทาง ปรับปรุงอาคารโดยสาร จากนั้น บพ.จะตรวจอีกครั้งเพื่อออกใบรับรองให้สนามบินในการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์
“การเปิดสนามบินดอนเมืองเร็วขึ้น นอกจากจะเรียกความเชื่อมั่นของประเทศกลับคืนมาแล้ว ยังช่วยลดความแออัดที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งขณะนี้มีเที่ยวบินและผู้โดยสารจำนวนมาก ทำให้เกิดความไม่สะดวก หากย้ายเที่ยวบินของนกแอร์ และ โอเรียนท์ ไทยฯ แม้จะเพียงบางส่วนอาจจะไม่ทั้งหมดที่เคยทำการบินที่สนามบินดอนเมืองก็จะช่วยลดความแออัดได้อย่างแน่นอน ซึ่ง ทอท.จะประสานกับสายการบินเพื่อเตรียมพร้อมแล้ว” นายวรเดช กล่าว
ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การฟื้นฟูรันเวย์ด้านตะวันออกด้านฝั่งทหารอากาศใช้งบประมาณ 489.2 ล้านบาท ดำเนินการใน 60 วัน กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2555 แน่นอน และเพื่อรองรับการเปิดใช้เชิงพาณิชย์เร็วขึ้น ทอท.จะเร่งปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ซึ่งไม่น่ามีปัญหา ส่วนการปรับปรุงรันเวย์ตะวันตก ตามแผนแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือน มี.ค.2555 ทั้งนี้ การย้ายนกแอร์และโอเรียนท์ไทยฯ กลับมาจะทำได้ในเดือน ก.พ.โดยใช้รันเวย์ตะวันตกในการขึ้น-ลงได้
ด้าน นาวาอากาศตรี ประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท.กล่าวว่า บวท.ได้เข้าสำรวจและซ่อมแซมอุปกรณ์ระบบเครื่องช่วยการเดินอากาศที่ได้รับความเสียหายเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จากเดิมที่ประเมินว่าจะใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งอุปกรณ์มีประกันภัยช่วยบางส่วน โดยระบบการควบคุมการจราจรทางอากาศจะสามารถใช้งานได้ในเดือน ม.ค.2555 ส่วนการให้บริการเชิงพาณิชย์จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก บพ.และความพร้อมของสนามบินซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท.
อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว ปริมาณจราจรทางอากาศที่สนามบินสุวรรณภูมิสูงมาก เฉลี่ย 800-900 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และได้ทำสถิติสูงสุดถึง 1,000 เที่ยวบินต่อชั่วโมงแล้ว ขณะที่ขีดความสามารถรันเวย์รองรับได้สูงสุด 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ทำให้เกิดความแออัด ซึ่งบวท.ใช้การบริหารจัดการเที่ยวบิน โดยประสานสายการบินตั้งแต่ต้นทางเพื่อไม่ให้สายการบินต้องบินวนเพื่อรอลงจอด ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้
