ASTVผู้จัดการรายวัน - สสปน.ร่วมกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศ ชงของบปี 56 วงเงิน 300 ล้านบาท เตรียมใช้ล็อบบี้ประเทศสมาชิก โหวตไทยเป็นเจ้าภาพจัดเวิลด์เอ็กซโป 2020 ขณะที่ ภาคเอกชน แบ่งรับแบ่งสู้ เชื่อไทยมีหวังแค่ 50% เหตุคู่แข่งเป็นประเทศขนาดใหญ่
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงต่างประเทศ ร่างแผนการทำงานในการเตรียมประมูลสิทธิการจัดมหกรรมโลกเวิลด์ เอ็กซโป 2020 เพื่อนำเสนองบประมาณในปี 2556 เบื้องต้นคาดว่า จะต้องใช้เม็ดเงินรวม 300 ล้านบาท ซึ่งที่ต้องใช้เงินจำนวนค่อนข้างมาก เพราะ ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.55 จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการสำคัญ โดยต้องเดินสายเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทั้งของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงต้องสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของคนไทย
“งบประจำปี 2555 ขณะนี้ ถูกปรับลดไปกว่า 20% เพราะรัฐบาลต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเยียวยาปัญหาน้ำท่วม และอีกส่วนหนึ่ง สสปน.ต้องนำเงินไปใช้เพื่อจัดงานเป็นเจ้าภาพโรตารี 2012 ที่กรุงเทพฯ รัฐบาลจึงไม่มีเงินพอที่จะจัดสรรงบประมาณที่จะใช้รณรงค์เวิลด์เอ็กซโปในปีนี้ ซึ่งสสปน.ก็มีการปรับการทำงานให้เพียงพอกับงบประมาณที่ได้รับ เช่นละการออกโรดโชว์ตลาดระยะไกลอย่าง ยุโรป อเมริกา ปรับมาโรดโชว์ในตลาดที่มาแรง ซึ่งอยู่ย่านเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอินโดนีเซีย “
ทั้งนี้ สสปน.คาดหวังว่า หากได้ทำงานตามแผนการที่วางไว้ ประเทศไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนกว่า 80% นอกจากนั้น ยังต้องเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่ง สำหรับเตรียมความพร้อมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน มีการเตรียมงาน เพื่อต้อนรับคณะที่เดินทางเข้ามาสำรวจความพร้อมของประเทศไทยในเดือน ก.พ.56
นายอรรคพล กล่าวถึง แผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ อยุธยา หลังวิกฤตน้ำท่วม จะมี 2 ส่วน ได้แก่ การตอกย้ำจุดเด่นที่เป็นเมืองมรดกโลก และ การเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรม“จิตอาสา ฟื้นฟูอยุธยา” มีบุคคลากรและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ ร่วมทำความสะอาดพื้นที่ บริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น
ให้ความหวังไทยแค่50%
ด้านนายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมการประชุมนานาชาติ (ไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการ เปิดตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซโป มานาน จึงมีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่น แต่ สิ่งที่ประเทศไทยจะเสียเปรียบคู่แข่งขัน คือ มีขนาดเศรษฐกิจที่เล็กกว่า ประเทศคู่แข่งขัน และที่น่ากลัวคือ บราซิล และ รัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน)ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่
โดยส่วนตัวประเมินว่าโอกาสของไทยที่จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพมีประมาณ 50% หรืออาจได้รับคะแนนโหวตเป็นลำดับที่ 2 หรือ 3 เมื่อเทียบกับ รัสเซีย ตุรกี บราซิล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ความพร้อมของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมากกว่าประเทศอื่นเนื่องจากมีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน แต่ประเด็นที่เสียเปรียบคู่แข่งอีก 4 ประเทศ คือ น้ำหนักของประเทศไทยในเวทีโลกที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าที่อื่นๆ โดยคู่แข่งที่น่ากลัวคือ บราซิล และ รัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน) ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงต่างประเทศ ร่างแผนการทำงานในการเตรียมประมูลสิทธิการจัดมหกรรมโลกเวิลด์ เอ็กซโป 2020 เพื่อนำเสนองบประมาณในปี 2556 เบื้องต้นคาดว่า จะต้องใช้เม็ดเงินรวม 300 ล้านบาท ซึ่งที่ต้องใช้เงินจำนวนค่อนข้างมาก เพราะ ช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.55 จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการสำคัญ โดยต้องเดินสายเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกทั้งของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงต้องสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของคนไทย
“งบประจำปี 2555 ขณะนี้ ถูกปรับลดไปกว่า 20% เพราะรัฐบาลต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเยียวยาปัญหาน้ำท่วม และอีกส่วนหนึ่ง สสปน.ต้องนำเงินไปใช้เพื่อจัดงานเป็นเจ้าภาพโรตารี 2012 ที่กรุงเทพฯ รัฐบาลจึงไม่มีเงินพอที่จะจัดสรรงบประมาณที่จะใช้รณรงค์เวิลด์เอ็กซโปในปีนี้ ซึ่งสสปน.ก็มีการปรับการทำงานให้เพียงพอกับงบประมาณที่ได้รับ เช่นละการออกโรดโชว์ตลาดระยะไกลอย่าง ยุโรป อเมริกา ปรับมาโรดโชว์ในตลาดที่มาแรง ซึ่งอยู่ย่านเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอินโดนีเซีย “
ทั้งนี้ สสปน.คาดหวังว่า หากได้ทำงานตามแผนการที่วางไว้ ประเทศไทยจะได้รับเสียงสนับสนุนกว่า 80% นอกจากนั้น ยังต้องเตรียมงบประมาณส่วนหนึ่ง สำหรับเตรียมความพร้อมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน มีการเตรียมงาน เพื่อต้อนรับคณะที่เดินทางเข้ามาสำรวจความพร้อมของประเทศไทยในเดือน ก.พ.56
นายอรรคพล กล่าวถึง แผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ อยุธยา หลังวิกฤตน้ำท่วม จะมี 2 ส่วน ได้แก่ การตอกย้ำจุดเด่นที่เป็นเมืองมรดกโลก และ การเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรม“จิตอาสา ฟื้นฟูอยุธยา” มีบุคคลากรและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ ร่วมทำความสะอาดพื้นที่ บริจาคสิ่งของให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น
ให้ความหวังไทยแค่50%
ด้านนายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมการประชุมนานาชาติ (ไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยมีการ เปิดตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน เวิลด์เอ็กซโป มานาน จึงมีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่น แต่ สิ่งที่ประเทศไทยจะเสียเปรียบคู่แข่งขัน คือ มีขนาดเศรษฐกิจที่เล็กกว่า ประเทศคู่แข่งขัน และที่น่ากลัวคือ บราซิล และ รัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน)ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่
โดยส่วนตัวประเมินว่าโอกาสของไทยที่จะได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพมีประมาณ 50% หรืออาจได้รับคะแนนโหวตเป็นลำดับที่ 2 หรือ 3 เมื่อเทียบกับ รัสเซีย ตุรกี บราซิล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ความพร้อมของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมากกว่าประเทศอื่นเนื่องจากมีการเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน แต่ประเด็นที่เสียเปรียบคู่แข่งอีก 4 ประเทศ คือ น้ำหนักของประเทศไทยในเวทีโลกที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าที่อื่นๆ โดยคู่แข่งที่น่ากลัวคือ บราซิล และ รัสเซีย ที่เป็นหนึ่งในกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน) ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่