“โจนส์ แลง ลาซาลล์” ระบุ บริษัทเอกชนในเขตน้ำท่วม ย้ายสำนักงานหนีน้ำ ส่งผลความต้องการออฟฟิศชั่วคราวเพิ่ม แต่ต้องแบกค่าเช่าเพิ่ม 20% จากค่าเช่าระยะยาว คาดตลาดอสังหาฯทรุดตามตัวเลขจีดีพี
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) ส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตธุรกิจชั้นใน ซึ่งน้ำยังไม่เข้าท่วมในขณะนี้ นอกจากนี้ สัญญาเช่าพื้นที่สำนักงานโดยทั่วไปมีอายุ 3 ปี ซึ่งผูกมัดให้ผู้เช่าไม่สามารถบอกเลิกการเช่าก่อนสัญญาหมดอายุได้แม้อาคารจะถูกน้ำท่วม
“ณ ขณะนี้เราไม่อาจสรุปได้ว่า ตลาดอาคารสำนักงานโดยรวมของกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบเพียงใด เนื่องจากภาวะน้ำท่วมยังคงรุกคืบเข้าพื้นที่ของกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเบื้องต้น ผลกระทบที่สังเกตได้ คือ การที่บริษัทต่างๆ ได้ชะลอการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการเช่าพื้นที่สำนักงานในขณะนี้ เพราะกำลังรอดูว่า ธุรกิจของตนจะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมหรือไม่ มากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่า สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและคาดว่า กิจกรรมการเช่าสำนักงานจะฟื้นตัวทันที่วิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป”
สถานการณ์น้ำท่วมที่ขยายวงกว้างในเขตกรุงเทพฯ ตอนบน ได้ทำให้บริษัทผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานบริเวณที่ถูกน้ำท่วมจนเกิดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงบริษัทที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วม ต้องการอาคารสำนักงานให้เช่าเพื่อใช้เป็นที่ทำการชั่วคราวในเขตธุรกิจชั้นในของกรุงเทพฯ ที่มีความเสี่ยงต่อสถานการณ์น้ำท่วมน้อยกว่า
บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องการสำนักงานชั่วคราวขนาดพื้นที่ระหว่าง 50-300 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทั้งหมดหรือบางส่วน ที่พร้อมให้เข้าใช้พื้นที่ได้ในทันที สำหรับช่วง 1-2 เดือน ทั้งนี้ มีอาคารสำนักงานหลายอาคารในกรุงเทพฯ ที่พร้อมตอบสนองความต้องการระยะสั้นนี้ได้ เนื่องจากหลายอาคารยังมีพื้นที่สำนักงานว่างส่วนหนึ่ง หลังจากที่ผู้เช่ารายเดิมเพิ่งย้ายออกและยังไม่ได้มีการรื้อถอนระบบอำนวยความสะดวกทั้งหมดออก โดยบางอาคารสำนักงานยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ สายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
“ค่าเช่ามีหลายอัตราแตกต่างกันไปแล้วแต่อาคาร แต่โดยรวมแล้ว ค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวจะมีอัตราสูงกว่าค่าเช่าสำหรับสัญญาการเช่าระยะยาวราว 20% ทั้งนี้ มีเจ้าของอาคารบางรายที่เสนอค่าเช่าที่ไม่สูงเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม”
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีบริษัทขนาดใหญ่บางรายที่ต้องการเช่าสำนักงานชั่วคราวนอกกรุงเทพฯ ตามแผนสำรองสำหรับการดำเนินธุรกิจในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยส่วนใหญ่มองหาที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวในแถบ พัทยา ศรีราชา และแหลมฉบัง
จากการที่นิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆ ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม คาดว่า จะมีผลต่อตลาดอาคารสำนักงานของกรุงเทพฯ ด้วยในระยะต่อไป เนื่องจากบริษัทผู้ประกอบการหลายรายที่ใช้โรงงานของตนในนิคมอุตสาหกรรมเป็นสำนักงานไปด้วยในตัว แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น อาจทำให้มีแนวโน้มว่าบริษัทหรือผู้ประกอบการเหล่านี้บางส่วน แยกสำนักงานออกมาตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดประมาณการณ์ตัวเลขการขยายตัวจีดีพีลงจาก 4.1% เหลือ 2.6% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ จึงคาดว่าอุปสงค์ในตลาดอจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลจำเป็นจะต้องมีแผนการฟื้นฟูที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) ส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตธุรกิจชั้นใน ซึ่งน้ำยังไม่เข้าท่วมในขณะนี้ นอกจากนี้ สัญญาเช่าพื้นที่สำนักงานโดยทั่วไปมีอายุ 3 ปี ซึ่งผูกมัดให้ผู้เช่าไม่สามารถบอกเลิกการเช่าก่อนสัญญาหมดอายุได้แม้อาคารจะถูกน้ำท่วม
“ณ ขณะนี้เราไม่อาจสรุปได้ว่า ตลาดอาคารสำนักงานโดยรวมของกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบเพียงใด เนื่องจากภาวะน้ำท่วมยังคงรุกคืบเข้าพื้นที่ของกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในเบื้องต้น ผลกระทบที่สังเกตได้ คือ การที่บริษัทต่างๆ ได้ชะลอการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการเช่าพื้นที่สำนักงานในขณะนี้ เพราะกำลังรอดูว่า ธุรกิจของตนจะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมหรือไม่ มากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่า สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและคาดว่า กิจกรรมการเช่าสำนักงานจะฟื้นตัวทันที่วิกฤตการณ์น้ำท่วมผ่านพ้นไป”
สถานการณ์น้ำท่วมที่ขยายวงกว้างในเขตกรุงเทพฯ ตอนบน ได้ทำให้บริษัทผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานบริเวณที่ถูกน้ำท่วมจนเกิดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงบริษัทที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วม ต้องการอาคารสำนักงานให้เช่าเพื่อใช้เป็นที่ทำการชั่วคราวในเขตธุรกิจชั้นในของกรุงเทพฯ ที่มีความเสี่ยงต่อสถานการณ์น้ำท่วมน้อยกว่า
บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องการสำนักงานชั่วคราวขนาดพื้นที่ระหว่าง 50-300 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทั้งหมดหรือบางส่วน ที่พร้อมให้เข้าใช้พื้นที่ได้ในทันที สำหรับช่วง 1-2 เดือน ทั้งนี้ มีอาคารสำนักงานหลายอาคารในกรุงเทพฯ ที่พร้อมตอบสนองความต้องการระยะสั้นนี้ได้ เนื่องจากหลายอาคารยังมีพื้นที่สำนักงานว่างส่วนหนึ่ง หลังจากที่ผู้เช่ารายเดิมเพิ่งย้ายออกและยังไม่ได้มีการรื้อถอนระบบอำนวยความสะดวกทั้งหมดออก โดยบางอาคารสำนักงานยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น โต๊ะทำงาน เก้าอี้ สายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
“ค่าเช่ามีหลายอัตราแตกต่างกันไปแล้วแต่อาคาร แต่โดยรวมแล้ว ค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวจะมีอัตราสูงกว่าค่าเช่าสำหรับสัญญาการเช่าระยะยาวราว 20% ทั้งนี้ มีเจ้าของอาคารบางรายที่เสนอค่าเช่าที่ไม่สูงเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม”
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีบริษัทขนาดใหญ่บางรายที่ต้องการเช่าสำนักงานชั่วคราวนอกกรุงเทพฯ ตามแผนสำรองสำหรับการดำเนินธุรกิจในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยส่วนใหญ่มองหาที่ตั้งสำนักงานชั่วคราวในแถบ พัทยา ศรีราชา และแหลมฉบัง
จากการที่นิคมอุตสาหกรรมสำคัญๆ ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม คาดว่า จะมีผลต่อตลาดอาคารสำนักงานของกรุงเทพฯ ด้วยในระยะต่อไป เนื่องจากบริษัทผู้ประกอบการหลายรายที่ใช้โรงงานของตนในนิคมอุตสาหกรรมเป็นสำนักงานไปด้วยในตัว แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น อาจทำให้มีแนวโน้มว่าบริษัทหรือผู้ประกอบการเหล่านี้บางส่วน แยกสำนักงานออกมาตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดประมาณการณ์ตัวเลขการขยายตัวจีดีพีลงจาก 4.1% เหลือ 2.6% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ จึงคาดว่าอุปสงค์ในตลาดอจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลจำเป็นจะต้องมีแผนการฟื้นฟูที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา