จันทบุรี - จังหวัดจันทบุรีจับมือกับสำนักงานพัฒนาสังคมฯ ใช้วัด ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่ม 2 แห่ง หลังมีผู้ลี้ภัยน้ำท่วม ทยอยเดินทางเข้าพักพิงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.จันทบุรี นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี พร้อมด้วย นางสุชาดา ศิริกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันแถลงข่าว การเปิดศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้นอีก 2 จุด ประกอบด้วย วัดป่าคลองกุ้ง และวัดคมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยวัดป่าคลองกุ้ง สามารถรองรับผู้ประสบภัย ได้จำนวน 1,000 คน ส่วนวัดคมบางรองรับได้ 1,300 คน
นายณรงค์ กล่าวว่า การเปิดวัดทั้งสองแห่ง ให้เป็นศูนย์ที่พักพิงช่วยผู้ประสบภัยนั้น เนื่องจากเป็นสถานที่กว้างขวาง อยู่ในเขตตัวเมืองจันทบุรี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งเรื่องที่พักและอาหารการกิน ขณะที่ เจ้าอาวาสวัดคมบางบอกว่า ทางวัดได้จัดเตรียมที่พักพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกไว้ครบครัน ตลอดจน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้ผู้ลี้ภัยได้มีส่วนร่วม ในการฟื้นฟูจิตใจ ผ่อนคลายความตึงเครียดจากปัญหาน้ำท่วม
ส่วนวัดป่าคลองกุ้ง และศูนย์พักพิงชั่วคราวของจังหวัดอีก 4 จุด ยังมีประชาชนที่ลี้ภัยน้ำท่วม ทยอยเข้าพักอย่างต่อเนื่อง และมีหลายครอบครัวได้พากันเดินทางกลับภูมิลำเนา กลับฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนหลังสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ขณะที่วัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ได้เปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยมีคณะศิษย์ยานุศิษย์ของหลวงปู่สมชาย ฐิตะวิริโย ที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้เดินทางเข้ามาพักแล้วกว่า 100 ชีวิต และยังมีบางส่วนทยอยเดินทางมาเข้าพักต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดและสำนักงานพัฒนาสังคม ได้คอยประสานข้อมูล จำนวนผู้มาพักพิง ในการจัดเตรียมความช่วยเหลือสนับสนุนอีกทางหนึ่ง
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.จันทบุรี นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี พร้อมด้วย นางสุชาดา ศิริกุล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันแถลงข่าว การเปิดศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้นอีก 2 จุด ประกอบด้วย วัดป่าคลองกุ้ง และวัดคมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยวัดป่าคลองกุ้ง สามารถรองรับผู้ประสบภัย ได้จำนวน 1,000 คน ส่วนวัดคมบางรองรับได้ 1,300 คน
นายณรงค์ กล่าวว่า การเปิดวัดทั้งสองแห่ง ให้เป็นศูนย์ที่พักพิงช่วยผู้ประสบภัยนั้น เนื่องจากเป็นสถานที่กว้างขวาง อยู่ในเขตตัวเมืองจันทบุรี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งเรื่องที่พักและอาหารการกิน ขณะที่ เจ้าอาวาสวัดคมบางบอกว่า ทางวัดได้จัดเตรียมที่พักพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกไว้ครบครัน ตลอดจน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้ผู้ลี้ภัยได้มีส่วนร่วม ในการฟื้นฟูจิตใจ ผ่อนคลายความตึงเครียดจากปัญหาน้ำท่วม
ส่วนวัดป่าคลองกุ้ง และศูนย์พักพิงชั่วคราวของจังหวัดอีก 4 จุด ยังมีประชาชนที่ลี้ภัยน้ำท่วม ทยอยเข้าพักอย่างต่อเนื่อง และมีหลายครอบครัวได้พากันเดินทางกลับภูมิลำเนา กลับฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนหลังสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ขณะที่วัดเขาสุกิม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ที่ได้เปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยมีคณะศิษย์ยานุศิษย์ของหลวงปู่สมชาย ฐิตะวิริโย ที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้เดินทางเข้ามาพักแล้วกว่า 100 ชีวิต และยังมีบางส่วนทยอยเดินทางมาเข้าพักต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดและสำนักงานพัฒนาสังคม ได้คอยประสานข้อมูล จำนวนผู้มาพักพิง ในการจัดเตรียมความช่วยเหลือสนับสนุนอีกทางหนึ่ง
