xs
xsm
sm
md
lg

พณ. เร่งแก้ของแพง เล็งขึ้นบัญชีดำ ทราย รองเท้าบู๊ต ไฟฉาย เรือท้องแบน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"พาณิชย์" เตรียมชง คกก. ฟื้นฟูน้ำท่วม จัดมหกรรมสินค้ากระตุ้น ศก. ภายในประเทศ พร้อมจัดทีมไทยแลนด์ โปรโมตภาพลักษณ์-กู้ความเชื่อมั่นต่างชาติ "ภูมิ" เล็งขึ้นบัญชีดำ ทราย รองเท้าบู๊ต ไฟฉาย และเรือท้องแบน เป็นสินค้าควบคุม หากยังโขกราคาแพง ซ้ำเติมผู้เดือดร้อน "สคบ." ยอมรับ ปชช. ร้องเรียนอื้อ "ค้าภายใน" เชือดโชว์

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์น้ำท่วมที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ในวันที่ 17 ตุลาคม 2554 นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้รัฐบาลจัดมหกรรมพาณิชย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยให้ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการนำสินค้าออกมาจำหน่าย รวมถึงเชื่อมโยงแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอื่นๆ มาจำหน่ายราคาถูกให้ประชาชนโดยตรง

นอกจากนี้ กระทรวงจะจัดให้มีการพบปะเจรจาการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่คู่ค้าต่างชาติ พร้อมกับขยายโอกาสการค้าแก่ผู้ประกอบการที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม โดยมาตรการทั้งส่งเสริมการค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นมาตรการเร่งด่วน เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ พร้อมกับเพิ่มช่องทางนำสินค้าในสต็อกที่ขายได้ลดลงในช่วงน้ำท่วมมาจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคาประหยัด

ทั้งนี้ จะมีการเสนอจัดทีมไทยแลนด์ เป็นคณะตัวแทนจากรัฐบาล ภาครัฐ และเอกชน ไปเยือนต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจต่อการส่งออกสินค้าไทย และค้ำประกันการส่งออกของไทยที่จะผลักดันการผลิตคุณภาพและส่งมอบสินค้าได้ตามเวลาที่กำหนด และเร่งรัดให้ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวบรวมปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการว่าต้องการความช่วยเหลือแบบใดเพื่อพยุงธุรกิจหลังน้ำท่วมให้ฟื้นคืนกลับมาได้

นายภูมิ สาระผล รัฐมนรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ มีแผนนำสินค้าสำคัญที่ใช้ในช่วงน้ำท่วม เช่น กระสอบทราย เสื้อชูชีพ เรือท้องแบน ไฟฉาย ขึ้นบัญชีสินค้าควบคุม เพื่อประกาศเป็นมาตรการกฎหมายควบคุมราคาสินค้าไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและกักตุนสินค้าอย่างไม่มีเหตุผล และขณะนี้ได้ให้กรมการค้าภายในประเมินสถานการณ์หลังจากที่ได้ขอความร่วมมือ หากพบว่าสถานการณ์กักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคายังไม่คลี่คลาย ก็จะบรรจุไว้ในบัญชีสินค้าควบคุมทันที

นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ประสบภัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องผู้ประกอบการร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ขึ้นราคาสินค้า เช่น กระสอบทรายที่ปรับราคาขายขึ้นไปถึงถุงละ 50 บาท จากเดิมที่ขายถุงละ 30 บาท

นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนเกี่ยวกับผู้ประกอบการหอพักในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมได้ปรับขึ้นค่าเช่าห้อง จากเดิมที่เก็บ 2,500-3,500 บาทต่อเดือน เป็นวันละ 500 บาท ถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเกินความจำเป็น ดังนั้น สคบ.จึงได้แจ้งเตือนให้ผู้บริโภคที่ถูกเอาเปรียบสามารถแจ้งรายละเอียดมายัง สคบ. หรือสายด่วน สคบ. 1166 เพื่อประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและกำหนดบทลงโทษได้

"มีร้านขายวัสดุก่อสร้างหลายพื้นที่ที่ขึ้นราคาซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม โดยในแต่ละวัน สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง เราจึงประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจสอบ"

สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมนั้น สคบ.ได้ประสานกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่เช่าซื้อรถและประสบภัยน้ำท่วม โดยสมาคมฯ ได้แจ้งว่าจะให้ความช่วยเหลือลูกค้า โดยจะยกเว้นการเรียกเก็บเงินค่าติดตามทวงถาม พักชำระค่างวดเช่าซื้อ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และกรณีที่ลูกค้าเช่าซื้อหลายคัน เช่น รถแท็กซี่ จะพิจารณาตามความเหมาะสมในการชำระหนี้ต่อไป

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายในได้จับกุมรับค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่งที่มีสาขาหลายแห่ง จำหน่ายถุงทรายบรรจุขนาด 20 กิโลกรัม จากปกติจะมีขนาดบรรจุละ 25-30 กิโลกรัม ในราคาถุงละ 55 บาท เมื่อตรวจสอบต้นทุนย้อนหลังพบว่ามีอัตรากำไรสูงมาก จึงรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีในความผิดมาตรา 29 ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในข้อหาจงใจจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้ประสานกรมสรรพากรเพื่อตรวจสอบรายได้อีกทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบพบผู้ค้าหลายรายไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้า จึงได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเป็น 2 เท่าของอัตราปกติ

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบภาวะการจำหน่ายทรายบริเวณรอบนอกกรุงเทพมหานคร เช่น เขตสายไหม เขตดอนเมือง เขตบางเขน เขตลาดกระบัง และเขตหนองจอก และหากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ แจ้งที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ กรมจะส่งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น