“กิตติรัตน์” ยัน ศก.ไทย ภูมิคุ้มกันดี ฝ่าวิกฤต ศก.สหรัฐฯ หนี้ยุโรป ได้แน่ ส่วนปัญหาน้ำท่วม เร่งแผนเยียวยานาข้าว เผย ที่ประชุม ครม.กำหนดแนวทางซักซ้อมจำนำข้าว เตรียมเปิดแถลง เร็วๆ นี้
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มสหภาพยุโป (อียู) ที่เกิดขึ้น ว่า ถือเป็นเรื่องเรื้อรัง กินระยะเวลายาวนาน และเป็นเรื่องของการใช้ค่าเงินสกุลเดียวเมื่อประสบปัญหาสมาชิกในอียู ก็ต้องยอมรับปัญหาให้ได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าปัญหาจะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่หากดูในแง่ของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไทย แม้จะได้รับผลกระทบ แต่ส่วนใหญ่ยังมีการปรับตัว ทำให้ได้รับผลกระทบแบบเบาบาง
“สุดท้ายแล้ว การรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอเมริกา และยุโรป ทำให้ทุกประเทศต้องเริ่มปรับตัว ซึ่งจะเห็นได้ว่า เศรษฐกิจของเอเชียมีการปรับตัวเข้าหากัน เพื่อให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเบาบางลง และหลังจากนี้ไป กลุ่มภูมิภาคเอเชีย คงต้องมีการพึ่งพาภาพรวมเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน ดังนั้น การใช้มาตรการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ จึงเป็นนโยบายที่สำคัญ ที่จะต้องเดินหน้าร่วมกันต่อไป”
ส่วนการดูแลผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และพืชผลทางการเกษตร ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ก็ได้มีการอนุมัติกรอบการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะกรอบการช่วยเหลือ ระหว่างโครงการประกันรายได้ กับโครงการรับจำนำของรัฐบาล ที่จะเริ่มในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 นี้ ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
โดยในวันพรุ่งนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะชี้แจงทำความเข้าใจเกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการในการซักซ้อม โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิต 2554/55 ซึ่งรัฐบาลกำหนดการรับจำนำข้าวเปลือก แบบไม่จำกัดจำนวน โดยกำหนดไว้ข้าวเปลือกเจ้า 5% อัตรารับจำนำ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ตันละ 20,000 บาท ซึ่งการประชุม ครม.วันนี้ ยังไม่ได้มีการหารือเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการปิดรับจำนำจากวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นวันที่ 31 มีนาคม 2555 จากผลกระทบปัญหาน้ำท่วมหลายพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดพื้นที่นาที่ได้รับผลกระทบอยู่
