“ภูมิ” สั่งรับมือผักแพง หลังเจอน้ำท่วมและเข้าสู่เทศกาลกินเจ “วัชรี” ยันปีนี้ผักไม่น่าแพงมาก เหตุส่วนใหญ่ไม่ได้รับความเสียหาย และมีผลผลิตทดแทน ยันหากพื้นที่ใดขาด เตรียมขนผักจากที่อื่นเข้าไปขายทันที ส่วนผลสำรวจการซื้อขายผักในตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ราคาพุ่งกระฉูดแล้ว
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในไปสำรวจความเสียหายของผักและผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายพื้นที่ไปหลายจังหวัดของไทย ทำให้พื้นที่เพาะปลูกภาคการเกษตรได้รับความเสียหาย และให้หามาตรการรองรับ เพื่อป้องกันการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลกินเจในสัปดาห์หน้า และเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ราคาผักและผลไม้ พบว่าพื้นที่ปลูกผักหลายชนิดไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เช่น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีผักคะน้าและผักกวางตุ้ง สามารถมีผลผลิตขนส่งเข้ากรุงเทพฯ ได้ทันที ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ที่มีผักชนิดหัว ได้แก่ กะหล่ำปลี ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เพราะปลูกบนพื้นที่สูง แต่ยอมรับว่า ปัญหาผักแพงมาจากต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นจากเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม จึงประเมินว่า สถานการณ์ราคาผัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้จะมีราคาไม่ต่างจากช่วงเดียวกันปีก่อน เช่น ราคาผักคะน้า ปกติกิโลกรัมละ 15-16 บาท อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ กก.ละ 17 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผักที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เช่น ผักชี ในพื้นที่ปลูกมากในจังหวัดนครปฐม อาจมีราคาเพิ่มขึ้น แต่จะมีพื้นที่อื่นปลูกทดแทนเช่นกัน ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของกรม คือ จะประสานไปยังค้าภายในจังหวัดที่มีผลผลิตไม่เสียหาย ให้จัดส่งผักสดเข้ามายังตลาดที่อยู่ในความร่วมมือของกรม ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณผักในตลาด ลดปัญหาขาดแคลน และการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินกว่าความจำเป็น
“ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่า มีบางพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีผลผลิตดีอยู่และช่วงกินเจซึ่งเป็นช่วงที่มีการปลูกผักมาก เพื่อเป็นไฮซีซันของสินค้าชนิดนี้ จึงหมดปัญหาเรื่องปริมาณซัปพลายในตลาด ดังนั้น จะมาอ้างว่าของไม่มี แล้วขายแพงไม่ได้ ถ้ากรมพบ ก็มีแผนสำรอง โดยจะให้ค้าภายในจังหวัดทำหน้าที่นำผักสดเข้ามาเสริมในพื้นที่ที่ขายของแพงทันที ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งแผนนี้ก็ใช้ได้ผลเมื่อช่วงเทศกาลกินเจปีก่อน” นางวัชรี กล่าว
สำหรับราคาผักและผลไม้ คงต้องปล่อยให้เป็นตามกลไกตลาด ราคาอาจมีปรับขึ้นตามความต้องการบริโภค ซึ่งเป็นปกติของทุกเทศกาลที่ราคาสินค้าจะสูงขึ้น แต่จะดูแลให้ราคาที่เพิ่มปรับขึ้นเป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนจนเกินไป และยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้ค้าในตลาดให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจในการซื้อสินค้า
ทั้งนี้ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับสถานการณ์ผักแพง เพราะเป็นพืชอายุสั้น สามารถปลูกทดแทนได้ในช่วงเวลา 25-45 วันเท่านั้น ซึ่งกรมได้กำหนดมาตรการดูแลเทศกาลกินเจที่จะมาถึงนี้ โดยกรมฯ จะมหกรรมกินเจ โดยนำผักและผลไม้จากพื้นเพาะปลูกมาจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ที่ตลาดมีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบน้ำท่วมสูงในหลายจังหวัดภาคกลาง และภาคเหนือ ตอนล่าง ประกอบกับใกล้ถึงช่วงเทศกาลกินเจ วันที่ 25 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ราคาผักสดในตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กก.5-10 บาท โดยผักคะน้าเพิ่มเป็น กก.30-32 บาท บุ้งจีน 28-30 บาท กวางตุ้ง 25-28 บาท กะหล่ำปลี 18-20 บาท ผักชีขีดละ 8-9 บาท ต้นหอม 7-8 บาท ขึ้นฉ่าย 9-10 บาท ส่วนแนวโน้มราคาอนาคตยังมีโอกาสปรับขึ้นอีก เพราะหลายพื้นที่เพาะปลูกในภาคกลางมีน้ำท่วมต่อเนื่องและเส้นทางการขนส่งถูกตัดขาด รวมถึงจะมีความต้องการบริโภคผักสดขึ้นในช่วงกินเจ
นายภูมิ สาระผล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งให้กรมการค้าภายในไปสำรวจความเสียหายของผักและผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หลังจากที่สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายพื้นที่ไปหลายจังหวัดของไทย ทำให้พื้นที่เพาะปลูกภาคการเกษตรได้รับความเสียหาย และให้หามาตรการรองรับ เพื่อป้องกันการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการบริโภคที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลกินเจในสัปดาห์หน้า และเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ราคาผักและผลไม้ พบว่าพื้นที่ปลูกผักหลายชนิดไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เช่น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีผักคะน้าและผักกวางตุ้ง สามารถมีผลผลิตขนส่งเข้ากรุงเทพฯ ได้ทันที ขณะที่พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ที่มีผักชนิดหัว ได้แก่ กะหล่ำปลี ไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เพราะปลูกบนพื้นที่สูง แต่ยอมรับว่า ปัญหาผักแพงมาจากต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นจากเส้นทางที่ถูกน้ำท่วม จึงประเมินว่า สถานการณ์ราคาผัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจปีนี้จะมีราคาไม่ต่างจากช่วงเดียวกันปีก่อน เช่น ราคาผักคะน้า ปกติกิโลกรัมละ 15-16 บาท อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ กก.ละ 17 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผักที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เช่น ผักชี ในพื้นที่ปลูกมากในจังหวัดนครปฐม อาจมีราคาเพิ่มขึ้น แต่จะมีพื้นที่อื่นปลูกทดแทนเช่นกัน ซึ่งแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของกรม คือ จะประสานไปยังค้าภายในจังหวัดที่มีผลผลิตไม่เสียหาย ให้จัดส่งผักสดเข้ามายังตลาดที่อยู่ในความร่วมมือของกรม ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณผักในตลาด ลดปัญหาขาดแคลน และการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินกว่าความจำเป็น
“ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พบว่า มีบางพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีผลผลิตดีอยู่และช่วงกินเจซึ่งเป็นช่วงที่มีการปลูกผักมาก เพื่อเป็นไฮซีซันของสินค้าชนิดนี้ จึงหมดปัญหาเรื่องปริมาณซัปพลายในตลาด ดังนั้น จะมาอ้างว่าของไม่มี แล้วขายแพงไม่ได้ ถ้ากรมพบ ก็มีแผนสำรอง โดยจะให้ค้าภายในจังหวัดทำหน้าที่นำผักสดเข้ามาเสริมในพื้นที่ที่ขายของแพงทันที ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งแผนนี้ก็ใช้ได้ผลเมื่อช่วงเทศกาลกินเจปีก่อน” นางวัชรี กล่าว
สำหรับราคาผักและผลไม้ คงต้องปล่อยให้เป็นตามกลไกตลาด ราคาอาจมีปรับขึ้นตามความต้องการบริโภค ซึ่งเป็นปกติของทุกเทศกาลที่ราคาสินค้าจะสูงขึ้น แต่จะดูแลให้ราคาที่เพิ่มปรับขึ้นเป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนจนเกินไป และยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้ค้าในตลาดให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจในการซื้อสินค้า
ทั้งนี้ ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับสถานการณ์ผักแพง เพราะเป็นพืชอายุสั้น สามารถปลูกทดแทนได้ในช่วงเวลา 25-45 วันเท่านั้น ซึ่งกรมได้กำหนดมาตรการดูแลเทศกาลกินเจที่จะมาถึงนี้ โดยกรมฯ จะมหกรรมกินเจ โดยนำผักและผลไม้จากพื้นเพาะปลูกมาจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ที่ตลาดมีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบน้ำท่วมสูงในหลายจังหวัดภาคกลาง และภาคเหนือ ตอนล่าง ประกอบกับใกล้ถึงช่วงเทศกาลกินเจ วันที่ 25 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ราคาผักสดในตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กก.5-10 บาท โดยผักคะน้าเพิ่มเป็น กก.30-32 บาท บุ้งจีน 28-30 บาท กวางตุ้ง 25-28 บาท กะหล่ำปลี 18-20 บาท ผักชีขีดละ 8-9 บาท ต้นหอม 7-8 บาท ขึ้นฉ่าย 9-10 บาท ส่วนแนวโน้มราคาอนาคตยังมีโอกาสปรับขึ้นอีก เพราะหลายพื้นที่เพาะปลูกในภาคกลางมีน้ำท่วมต่อเนื่องและเส้นทางการขนส่งถูกตัดขาด รวมถึงจะมีความต้องการบริโภคผักสดขึ้นในช่วงกินเจ