บอสใหญ่ “ร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส์” ยันนโยบายเดิมแม้เปลี่ยนผู้ถือหุ้น ได้แรงหนุนเปิดเกมรุก เพิ่มสัดส่วนรายได้นอน—บุ๊คส์ เป็น 10% พร้อมลุยอีบุ๊คส์เต็มสูบ ผุดสาขาใหม่เพิ่มภูธร
นายสิโรตม์ จิระประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย บุ๊คส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส์ เปิดเผยว่า นโยบายและตำแหน่งทางการตลาดของเอเชียบุ๊คส์ยังคงเดิม คือ การเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกหนังสือนำเข้าจากต่างประเทศ 100% แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาถือหุ้นก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ แต่จะมีการเพิ่มมูลค่าให้กับร้านมากขึ้นจากธุรกิจใหม่ของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2554 บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) อนุมัติให้บริษัท บีเจซี อินเตอร์เนชันแนล จำกัด หรือบีเจไอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯถือหุ้น 100% เข้าซื้อหุ้น 100% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท เอเชียบุ๊คส์ จำกัด หรือเป็นมูลค่ารวม 1,195 ล้านบาท
นายสิโรตม์ กล่าวต่อถึง แผนการดำเนินธุรกิจของเอเชียบุ๊คส์ว่า ในปีหน้าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น และขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสาขา รวมค่าก่อสร้างและค่าหนังสือ ขณะที่ปีนี้มีการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดสาขาที่จามจุรีสแควร์ พื้นที่ 500 ตารางเมตรซึ่งเป็นขนาดใหญ่ ในเดือนหน้าจะเปิดอีกที่ เซ็นทรัลพระรามเก้า, เทอร์มินัล21 ปลายปีเปิดที่สนามบินหาดใหญ่ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรวม 70 สาขา จากปัจจุบันมี 65 สาขาแล้ว ทั้งนี้เป้าหมายอีก 3 ปีจากนี้จะมีสาขารวม 100 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่แผนการตลาดนั้น จากการที่มีกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเป็นเจ้าของ จะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งและผลักดันให้เอเชียบุ๊คส์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นด้วย จากเดิมที่เริ่มทำมาบ้างแล้ว เช่นกรณีของ การเพิ่มสินค้านอน-บุ๊ค ( Non-Book) นำสินค้าที่ไม่ใช่หนังสือเข้ามาจำหน่าย แต่ต้องเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ที่คั่นหนังสือ เครื่องเขียน ไอแพด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คงเพิ่มได้เฉพาะสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เท่านั้น ประมาณ 30 กว่าสาขา ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากนอน-บุ๊คส์ไว้ที่ 10% จากเดิมมี 5%
อีกทั้งได้ขยายธุรกิจใหม่อย่างจริงจังคือ อีบุ๊คส์ ( eBooks) หลังจากที่ทดลองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นรายแรกในไทย ซึ่งมี อีบุ๊คส์มากกว่า 5 แสนเรื่องแล้ว และสามารถเลือกซื้อได้ที่ www.asiabooks.com จะมีการสร้างความต่อเนื่องเพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างความหลากหลายด้วยการเปิดตัว “Asia Books Application” ซึ่งบริษัทฯจะนำ ดีอาร์เอ็ม (Digital Right Management) เพื่อให้หมดความกังวลในเรื่องของลิขสิทธิ์ ทั้งผู้ซื้อและผู้เขียนและสำนักพิมพ์ต่างๆ ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะเพิ่มจำนวนหนังสืออิเล็คทรอนิคส์ในอีบุ๊คส์สโตร์เป็น 1 ล้านเรื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับทางสำนักพิมพ์โลนลี่แพลเน็ต เปิดตัวคู่มือท่องเที่ยวในฉบับอีบุ๊คส์เป็นรายแรกในเอเชีย
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากอีคอมเมิร์ซสัดส่วน 10-15% และรายได้จากการขายหนังสือ 85% ซึ่งกลุ่มหนังสือที่ขายดี คือ หนังสือเด็ก หนังสือดีไซน์ หนังสือธุรกิจ เป็นต้น
ปัจจุบันตลาดธุรกิจหนังสือต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขปกติ ขณะที่เอเชียบุ๊คส์มีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากการมีร้านหนังสือ 3 แบรนด์ ได้แก่ เอเชียบุ๊คส์ บุ๊คกาซีน และบุ๊คเอาท์เลท มีฐานสมาชิก 160,000 คน
นายสิโรตม์ จิระประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย บุ๊คส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส์ เปิดเผยว่า นโยบายและตำแหน่งทางการตลาดของเอเชียบุ๊คส์ยังคงเดิม คือ การเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกหนังสือนำเข้าจากต่างประเทศ 100% แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ามาถือหุ้นก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ แต่จะมีการเพิ่มมูลค่าให้กับร้านมากขึ้นจากธุรกิจใหม่ของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม 2554 บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) อนุมัติให้บริษัท บีเจซี อินเตอร์เนชันแนล จำกัด หรือบีเจไอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทฯถือหุ้น 100% เข้าซื้อหุ้น 100% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัท เอเชียบุ๊คส์ จำกัด หรือเป็นมูลค่ารวม 1,195 ล้านบาท
นายสิโรตม์ กล่าวต่อถึง แผนการดำเนินธุรกิจของเอเชียบุ๊คส์ว่า ในปีหน้าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น และขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย โดยใช้งบลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสาขา รวมค่าก่อสร้างและค่าหนังสือ ขณะที่ปีนี้มีการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่องเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดสาขาที่จามจุรีสแควร์ พื้นที่ 500 ตารางเมตรซึ่งเป็นขนาดใหญ่ ในเดือนหน้าจะเปิดอีกที่ เซ็นทรัลพระรามเก้า, เทอร์มินัล21 ปลายปีเปิดที่สนามบินหาดใหญ่ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรวม 70 สาขา จากปัจจุบันมี 65 สาขาแล้ว ทั้งนี้เป้าหมายอีก 3 ปีจากนี้จะมีสาขารวม 100 สาขาทั่วประเทศ
ขณะที่แผนการตลาดนั้น จากการที่มีกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเป็นเจ้าของ จะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งและผลักดันให้เอเชียบุ๊คส์มีการขยายตัวมากขึ้น และจะทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นด้วย จากเดิมที่เริ่มทำมาบ้างแล้ว เช่นกรณีของ การเพิ่มสินค้านอน-บุ๊ค ( Non-Book) นำสินค้าที่ไม่ใช่หนังสือเข้ามาจำหน่าย แต่ต้องเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น ที่คั่นหนังสือ เครื่องเขียน ไอแพด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คงเพิ่มได้เฉพาะสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เท่านั้น ประมาณ 30 กว่าสาขา ตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากนอน-บุ๊คส์ไว้ที่ 10% จากเดิมมี 5%
อีกทั้งได้ขยายธุรกิจใหม่อย่างจริงจังคือ อีบุ๊คส์ ( eBooks) หลังจากที่ทดลองเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป็นรายแรกในไทย ซึ่งมี อีบุ๊คส์มากกว่า 5 แสนเรื่องแล้ว และสามารถเลือกซื้อได้ที่ www.asiabooks.com จะมีการสร้างความต่อเนื่องเพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างความหลากหลายด้วยการเปิดตัว “Asia Books Application” ซึ่งบริษัทฯจะนำ ดีอาร์เอ็ม (Digital Right Management) เพื่อให้หมดความกังวลในเรื่องของลิขสิทธิ์ ทั้งผู้ซื้อและผู้เขียนและสำนักพิมพ์ต่างๆ ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะเพิ่มจำนวนหนังสืออิเล็คทรอนิคส์ในอีบุ๊คส์สโตร์เป็น 1 ล้านเรื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับทางสำนักพิมพ์โลนลี่แพลเน็ต เปิดตัวคู่มือท่องเที่ยวในฉบับอีบุ๊คส์เป็นรายแรกในเอเชีย
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จากอีคอมเมิร์ซสัดส่วน 10-15% และรายได้จากการขายหนังสือ 85% ซึ่งกลุ่มหนังสือที่ขายดี คือ หนังสือเด็ก หนังสือดีไซน์ หนังสือธุรกิจ เป็นต้น
ปัจจุบันตลาดธุรกิจหนังสือต่างประเทศมีมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขปกติ ขณะที่เอเชียบุ๊คส์มีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท จากการมีร้านหนังสือ 3 แบรนด์ ได้แก่ เอเชียบุ๊คส์ บุ๊คกาซีน และบุ๊คเอาท์เลท มีฐานสมาชิก 160,000 คน
