เลอโนโว พบตลาดแท็บเล็ตโตเกินคาด ตลาดโลกโตมากกว่า 2 เท่า ไตรมาสละ 7 ล้านเครื่อง เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีเพียง 2 ล้านเครื่อง เชื่อไทยเดินตามแนวโน้มโลกแต่คาดเป็นปีหน้า พร้อมลุย 2 ตลาดแท็บเล็ตในไทย ทั้งคอนซูเมอร์และคอมเมอร์เชียล หลังพบมีความต้องการที่แตกต่างกัน
นายจีระวุฒิ วงศ์พิมล กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตของแท็บเล็ตในตลาดโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วกว่า 2 เท่าตัว จากข้อมูลไอดีซีรายงานว่า ยอดการขายแท็บในปีที่แล้วตกประมาณ 2 ล้านเครื่องต่อไตรมาส แต่มาปีนี้ตัวเลขกระโดดขึ้นเป็น 7 ล้านเครื่องต่อไตรมาส
“เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เลอโนโวต้องลงมาเล่นในตลาดแท็บเล็ตเพราะเป็นตลาดที่กำลังโต แต่ว่าจะโตแค่ไหนประเมินได้ยาก เพราะเดิมไอดีซีคาดว่ายอดขายแท็บเล็ตใน 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง แต่เวลานี้ไตรมาสเดียวมีถึง 7 ล้านเครื่องไปแล้ว”
ส่วนตลาดแท็บเล็ตในเมืองไทยนั้น เลอโนโวมองว่าในปีหน้าจะมีการเติบโตอย่างมาก หลังจากปีนี้จะเป็นช่วงของการเรียนรู้การนำแท็บเล็บมาใช้งานมากกว่า ซึ่งจะเห็นผู้ผลิตต่างทยอยเปิดตัวแท็บเล็ตเข้าสู้กันในตลาดแทบจะทุกแบรนด์ เพียงแต่ต้องให้เวลากับผู้ใช้ในการเรียนรู้แท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฎิบัติการที่แตกต่างกัน ประกอบกับแอปพลิเคชันบนแอนดอยด์ในส่วนของแท็บเล็ตเองก็ยังมีไม่มากนัก
โดยคาดว่า ยอดขายแท็บเล็ตน่าจะอยู่ประมาณ 2.5-3 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตลาดของไอแพดเป็นหลัก ในส่วนของแท็บแเล็ตที่เป็นแอนดรอยด์เท่าที่ดูจากแบรนด์อื่นที่เข้ามาทำตลาดก่อนเลอโนโวถือว่ามีตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจโดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 15% ต่อไตรมาส
นายจีรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ไอดีซีได้มีการประเมินตลาดประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซียพบว่าเป็น 2 ตลาดที่จะมีอัตราการเติบโตของแท็บเล็ตสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ เลอโนโวจึงให้ความสำคัญกับตลาดไทย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนพัฒนาตลาด การขยายช่องทางขาย การสร้างแบรนด์ และการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นคือ IdeaPad K1 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไป กับรุ่น ThinkPad ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่เป็นแอนดรอยด์ แบรนด์แรกในทยที่ออกแบบมาสำหรับตลาดคอมเมอร์เชียลโดยเฉพาะเนื่องจากทางเลอโนโวได้มีการวิจัยตลาดพบว่าทั้งตลาดคอนซูเมอร์และตลาดคอมเมอร์เชียลมีความต้องการใช้งานที่มีรายละเอียดบางอย่างแตกต่างกัน
IdeaPad K1 ถูกออกแบบให้ผสมผสานความพิเศษของปุ่มโฮมเข้ากับแอปพลิเคชัน Launcher ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ ฟังเพลง ค้นหาเว็บไซต์ ดูวิดีโอมาให้ครบบนหน้าแรก ขณะที่ ThinkPad ที่เป็นแท็บเล็ตสำหรับคอมเมอร์เชียลก็มีแอปฯ ตอบโจทย์ทางด้านธุรกิจมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ระบบคลาวด์สตอเรจ โดยบริษัทยังได้ร่วมมือกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์บนแอนดรอยด์เพื่อพัฒนาแอปฯในเชิงธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธนาคาร การศึกษา การแพทย์ ขนส่ง โดยจะใช้การขายผ่านพาร์ทเนอร์ในตลาดคอมเมอร์เชียลที่เลอโนโวมีอยู่แล้วเป็นหลัก
“ถึงแม้แท็บเล็ตที่เปิดตัวในครั้งนี้จะนำรุ่นที่เป็นไวไฟเข้ามาทำตลาดก่อน โดยรุ่นที่เป็น 3G จะทยอยเข้ามาในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องโรงงานมีกำลังการผลิตไม่พอกับความต้องการ ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะตลาดประเทศไทยเท่านั้นเรื่องนี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก”
ในเบื้องต้นเลอโนโวจะวางตลาดแท็บเล็ตในส่วนที่เป็นซูเปอร์สโตร์อย่าง เพาเวอร์บาย ไอทีซิตี้ รวมถึงแบรนด์ช็อปของเลอโนโวก่อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะขยายไปยังมัลติแบรนด์ช็อปต่อไปในอีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้า ส่วนตัวเลขยอดขายแท็บเล็ตในปีนี้นั้น ยังไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องเป็นเท่าไรเนื่องจากยังมีปัญหาในเรื่องโรงงานผลิตสินค้าไม่พอกับความต้องการแล้วยังต้องรอความพร้อมของตลาดด้วย
“ผมเชื่อว่า ตลาดแท็บเล็ตยังมีโอกาสทางการตลาดสูง ซึ่งจะเห็นการเติบโตอย่างจริงจังในปีหน้า”
นายจีระวุฒิ วงศ์พิมล กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตของแท็บเล็ตในตลาดโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็วกว่า 2 เท่าตัว จากข้อมูลไอดีซีรายงานว่า ยอดการขายแท็บในปีที่แล้วตกประมาณ 2 ล้านเครื่องต่อไตรมาส แต่มาปีนี้ตัวเลขกระโดดขึ้นเป็น 7 ล้านเครื่องต่อไตรมาส
“เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เลอโนโวต้องลงมาเล่นในตลาดแท็บเล็ตเพราะเป็นตลาดที่กำลังโต แต่ว่าจะโตแค่ไหนประเมินได้ยาก เพราะเดิมไอดีซีคาดว่ายอดขายแท็บเล็ตใน 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง แต่เวลานี้ไตรมาสเดียวมีถึง 7 ล้านเครื่องไปแล้ว”
ส่วนตลาดแท็บเล็ตในเมืองไทยนั้น เลอโนโวมองว่าในปีหน้าจะมีการเติบโตอย่างมาก หลังจากปีนี้จะเป็นช่วงของการเรียนรู้การนำแท็บเล็บมาใช้งานมากกว่า ซึ่งจะเห็นผู้ผลิตต่างทยอยเปิดตัวแท็บเล็ตเข้าสู้กันในตลาดแทบจะทุกแบรนด์ เพียงแต่ต้องให้เวลากับผู้ใช้ในการเรียนรู้แท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฎิบัติการที่แตกต่างกัน ประกอบกับแอปพลิเคชันบนแอนดอยด์ในส่วนของแท็บเล็ตเองก็ยังมีไม่มากนัก
โดยคาดว่า ยอดขายแท็บเล็ตน่าจะอยู่ประมาณ 2.5-3 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตลาดของไอแพดเป็นหลัก ในส่วนของแท็บแเล็ตที่เป็นแอนดรอยด์เท่าที่ดูจากแบรนด์อื่นที่เข้ามาทำตลาดก่อนเลอโนโวถือว่ามีตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจโดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 15% ต่อไตรมาส
นายจีรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า ไอดีซีได้มีการประเมินตลาดประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซียพบว่าเป็น 2 ตลาดที่จะมีอัตราการเติบโตของแท็บเล็ตสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ เลอโนโวจึงให้ความสำคัญกับตลาดไทย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนพัฒนาตลาด การขยายช่องทางขาย การสร้างแบรนด์ และการเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่อีก 2 รุ่นคือ IdeaPad K1 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดคอนซูเมอร์ทั่วไป กับรุ่น ThinkPad ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่เป็นแอนดรอยด์ แบรนด์แรกในทยที่ออกแบบมาสำหรับตลาดคอมเมอร์เชียลโดยเฉพาะเนื่องจากทางเลอโนโวได้มีการวิจัยตลาดพบว่าทั้งตลาดคอนซูเมอร์และตลาดคอมเมอร์เชียลมีความต้องการใช้งานที่มีรายละเอียดบางอย่างแตกต่างกัน
IdeaPad K1 ถูกออกแบบให้ผสมผสานความพิเศษของปุ่มโฮมเข้ากับแอปพลิเคชัน Launcher ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ ฟังเพลง ค้นหาเว็บไซต์ ดูวิดีโอมาให้ครบบนหน้าแรก ขณะที่ ThinkPad ที่เป็นแท็บเล็ตสำหรับคอมเมอร์เชียลก็มีแอปฯ ตอบโจทย์ทางด้านธุรกิจมาให้ครบไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย ระบบคลาวด์สตอเรจ โดยบริษัทยังได้ร่วมมือกับนักพัฒนาซอฟต์แวร์บนแอนดรอยด์เพื่อพัฒนาแอปฯในเชิงธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธนาคาร การศึกษา การแพทย์ ขนส่ง โดยจะใช้การขายผ่านพาร์ทเนอร์ในตลาดคอมเมอร์เชียลที่เลอโนโวมีอยู่แล้วเป็นหลัก
“ถึงแม้แท็บเล็ตที่เปิดตัวในครั้งนี้จะนำรุ่นที่เป็นไวไฟเข้ามาทำตลาดก่อน โดยรุ่นที่เป็น 3G จะทยอยเข้ามาในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากติดปัญหาเรื่องโรงงานมีกำลังการผลิตไม่พอกับความต้องการ ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะตลาดประเทศไทยเท่านั้นเรื่องนี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก”
ในเบื้องต้นเลอโนโวจะวางตลาดแท็บเล็ตในส่วนที่เป็นซูเปอร์สโตร์อย่าง เพาเวอร์บาย ไอทีซิตี้ รวมถึงแบรนด์ช็อปของเลอโนโวก่อนในเบื้องต้น ก่อนที่จะขยายไปยังมัลติแบรนด์ช็อปต่อไปในอีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้า ส่วนตัวเลขยอดขายแท็บเล็ตในปีนี้นั้น ยังไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องเป็นเท่าไรเนื่องจากยังมีปัญหาในเรื่องโรงงานผลิตสินค้าไม่พอกับความต้องการแล้วยังต้องรอความพร้อมของตลาดด้วย
“ผมเชื่อว่า ตลาดแท็บเล็ตยังมีโอกาสทางการตลาดสูง ซึ่งจะเห็นการเติบโตอย่างจริงจังในปีหน้า”