หอการค้าฯ มองนโยบาย “รบ.ปู” กระตุ้น ศก. โตเพิ่มไม่เกิน 0.5% ระบุผลได้รับส่วนใหญ่เป็นการลดต้นทุน ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย แต่คงไม่มาก ขณะที่นโยบายรถยนต์คันแรก เจอข้อจำกัด-อุปสรรคเพียบ เชื่ออาจมีการปรับขึ้นภาษีบางตัว เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป ชี้ช่องทางเพิ่มแวต
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการ สภาหอการค้าไทย มองว่า จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คาดว่าจะมีส่วนผลักดันให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมไม่เกินอีก 0.5% เนื่องจากมองว่านโยบายส่วนใหญ่ที่ทำในปีนี้จะเป็นการลดต้นทุน ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย แต่คงไม่มาก
ส่วนกรณีของนโยบายรถยนต์คันแรก มองว่ายังมีข้อจำกัดอีกมาก ซึ่งไม่เป็นที่เปิดกว้าง ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียงระดับเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลมีนโยบายจะช่วยเรื่องการปรับลดต้นทุนของภาคธุรกิจที่จำเป็นจะต้องมีการปรับลดภาษีอาจจะส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจใช้วิธีปรับเพิ่มภาษีบางตัวในอนาคต เพื่อมาทดแทนรายได้ที่สูญเสียไป เช่น อาจจะมีการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส่วนการลดการจัดเก็บเงินจากน้ำมันเบนซินและดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ทางมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า หากราคาน้ำมันปรับลดลง 1 บาทจะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง 0.2-0.3% ซึ่งในกรณีของน้ำมันดีเซลที่ปรับลดลง 3 บาทต่อลิตร น่าจะมีผลทำให้เงินเฟ้อลด 0.6% แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบกันด้วย