“กิตติรัตน์” ผงาดคุมภาพรวม-โครงสร้าง ศก.การค้า-การลงทุน และภาคอุตฯ “ยิ่งลักษณ์” มั่นใจ “กิตติรัตน์-ธีระชัย” ขับเคลื่อน ศก.ได้ดี เจ้าตัวลั่นเดินหน้าแก้ ศก.ผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้กับ ปชช.ทันที หลังแถลงต่อสภา เร่งแก้ปัญหาสินค้าแพง ยันไม่ใช้วิธีกำหนดราคาสินค้าตายตัว แต่ควรเป็นไปตามอุปสงค์-อุปทาน ชี้ ปัญหาหมูแพง ส่วนหนึ่งเพราะใกล้สารทจีน คาดหลังเทศกาล ราคาปรับลง “เจ๊วัช” เชื่อมือ รมว.คนใหม่ รู้เรื่องการค้าในเชิงลึก ดูแลงานได้แน่
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าแพง โดยระบุว่า ตนเองจะต้องดูแลเรื่องค่าครองชีพและราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งแนวทางคงจะไม่ใช่การกำหนดราคาสินค้าตายตัว แต่ควรทำให้ราคาสินค้าเป็นไปตามอุปสงค์และอุปทาน พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับทางภาคเอกชนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของการจ่ายค่าแรงให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยหรือแรงงานที่ด้อยฝีมือด้วย
“ค่าครองชีพที่สำคัญๆ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งแน่นอน คงจะไม่ใช้วิธีกำหนดราคาตายตัว เราต้องเชื่อในกฎอุปสงค์อุปทาน ส่วนปัญหาเนื้อหมู ที่มีราคาแพงนั้น ทางกระทรวงได้ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าอาจเป็นเพราะช่วงนี้ เป็นช่วงเข้าใกล้วันสารทจีน และเชื่อว่า หลังผ่านวันสารทจีนไปแล้ว ราคาน่าจะลดลง”
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะต้องประสานงานกับภาคผู้ผลิตสินค้าให้เกิดความเข้าใจ เพราะการปรับค่าแรงขั้นต่ำอาจจะทำให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ หรือกังวลแนวโน้มราคาสินค้าจะแพงขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าอาจมีมากจนทำให้เกิดภาวะสินค้าขาดแคลนได้ สิ่งสำคัญต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่น ซึ่งยืนยันว่า รัฐบาลจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.พาณิชย์ ตามที่ได้รับมอบหมายนั้น ตนเองจะทำหน้าที่ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจของทุกกระทรวง เพื่อกลั่นกรองก่อนที่จะส่งให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจเป็นขั้นสุดท้าย โดยมั่นใจว่า จะสามารถทำงานร่วมกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เป็นอย่างดี เพราะเชื่อมั่นในฝีมือว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ
“ผมจะเร่งดำเนินตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ได้หาเสียงเอาไว้ทันที หลังจากแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภา ทั้งการขึ้นค่าแรง ลดภาษีนิติบุคคล การยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงที่ดูแลเศรษฐกิจจะทำงานได้อย่างราบรื่น”
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ เป็นอำนาจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตนเองจะทำหน้าที่กลั่นกรองข้อมูลให้ดีที่สุด ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรี
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เชื่อว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะในด้านการเงิน ซึ่งจะทำให้มีความเข้าใจในเรื่องการค้าและระบบเศรษฐกิจในเชิงลึก สามารถดูแลงานได้อย่างไม่มีปัญหา โดยเตรียมเสนอโครงสร้างราคาสินค้าทั้งระบบและผลกระทบ ให้รัฐมนตรีคนใหม่พิจารณา เพื่อใช้ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชนลดค่าครองชีพ
ก่อนหน้านี้ นาวสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรม (ส.อ.ท.) มีความเป็นห่วงด้านเศรษฐกิจมหภาค หากให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง จะเน้นเศรษฐกิจในด้านตลาดทุนมากกว่านั้น มองเรื่องนี้อย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้ทางด้านเศรษฐกิจผู้ที่ดูแลรับผิดชอบ คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โดยจะเข้ามาดูในภาพรวมของเศรษฐกิจ
ซึ่งในอนาคตคงจะมีที่ปรึกษาเพิ่มเติม เพราะเราไม่ได้มองในด้านของตลาดทุนเพียงอย่างเดียว แต่มองในภาคอุตสาหกรรมด้วย ส่วน นายกิตติรัตน์ ก็มาจากตลาดทุน ซึ่งเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนเท่านั้น และการขับเคลื่อนก็ไม่ได้ทำงานแต่เพียงผู้เดียว แต่ต้องมีผู้ที่มีความรู้หลายด้าน เชื่อว่าในอนาคตเราจะมีการเชิญผู้ที่มีความรู้ทุกด้านมาร่วมทำงานด้วย
เมื่อถามว่า คิดว่า บุคลากรทางเศรษฐกิจที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีศักยภาพไม่พอหรือไม่ จึงต้องดึงที่ปรึกษาภายนอกมาช่วยขับเคลื่อนด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะท่านก็ศึกษามาเยอะ ไม่ได้บอกว่าทำสายตลาดทุนอย่างเดียว แต่สายตลาดทุนก็ต้องมีความเข้าใจในทุกแขนงด้วย อีกทั้งยังมีความเข้าใจผ่านงานทางด้านตลาดทุนและดูแลในบริษัทเอกชน ก็น่าจะมีความเข้าใจในภาคอุตสาหกรรมด้วย
เมื่อถามว่า ทำอย่างไรให้นโยบายการเงินการคลังมีความสอดคล้องกันและไม่ส่งผลกระทบกับเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราต้องพิจารณาอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังต้องมีการหารือกับหลายๆ ฝ่ายด้วย
