xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชน จับตาทีม ศก.“ปู 1” จี้แก้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องเร่งด่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภาคเอกชนจับตาทีม ศก.รัฐบาล “ปู 1” ชี้ ต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับ พร้อมจี้แก้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องเร่งด่วน

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ว่า ในส่วนของรัฐมนตรีเศรษฐกิจนั้น เชื่อว่า ภารกิจสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาปากท้องหรือราคาสินค้าให้แก่ประชาชน โดยเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะมีการจัดวางยุทธศาสตร์และเร่งผลักดันการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้านต่างๆ ที่มีในขณะนี้

ส่วนปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ล่าสุด เอสแอนด์พี ปรับลดเครดิตของประเทศสหรัฐฯ นายดุสิต กล่าวว่า ภาคเอกชนเห็นว่าข้อเท็จจริงเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีปัญหามานานแล้ว แต่ เอสแอนด์พี พึ่งมาปรับลดเครดิตช่วงนี้ หลังจากนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องจับตาปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องพิจารณาเรื่องตลาดส่งออก

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เคยเป็นตลาดสำคัญของไทย ก็ต้องจับตาว่าความต้องการบริโภคสินค้าและการสั่งซื้อสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ จะปรับลดลงมากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งสร้างความร่วมมือในเรื่องการค้ากับประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสำคัญของตลาดการค้าในภูมิภาคนี้

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เชื่อว่า รัฐบาลใหม่จะมีการคัดสรรผู้เข้ามาทำหน้าที่ทีมเศรษฐกิจในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะต้องเป็นบุคคลเป็นที่ยอมรับ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น ปัญหาปากท้อง โดยในส่วนของภาคเอกชนไม่ได้กะเกณฑ์ว่ารัฐบาลใหม่จะต้องใช้เวลาเท่าใด จึงจะเห็นผลงานในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ รัฐบาลใหม่คงต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งจัดวางยุทธศาสตร์ แต่ภาพรวมเห็นว่าภายใน 1 ปี น่าจะเห็นทิศทางการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน

ส่วน ส.อ.ท.จะมีการประชุมร่วมกันวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และปัญหาเร่งด่วนก่อนที่จะมีการยื่นข้อเสนอให้กับรัฐบาลใหม่พิจารณาต่อไป สำหรับปัญหาผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯต้องติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด ซึ่งประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะเงินสกุลดอลลาร์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ องค์กรเอกชนประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย หอการค้าไทย ส.อ.ท.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมาการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ร่วมกันลงนามความร่วมมือในโครงการปลูกต้นกล้าความดีใน 94 โรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นโครงการที่เข้าไปปลูกฝังค่านิยมให้กับเยาวชน โดยชู 3 หลัก คือ ปลูกธรรมจิต ปลูกหลักชีวิต และปลูกธรรมชาติ เพื่อให้เยาวชนไทยมีภูมิคุ้มกันสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในครอบครัวร่วมพัฒนาสังคม และที่สำคัญ ให้เป็นคนดี เพื่อยกระดับการศึกษาและคุณภาพชีวิตของเด็กไทยที่เข้าร่วมโครงการ
กำลังโหลดความคิดเห็น