“บีโอไอ-สสปน.” จัดประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ “CEO Forum” เริ่ม 10 พ.ย.นี้ ตอกย้ำศักยภาพประเทศไทย มั่นใจวิกฤต ศก.สหรัฐฯ ไม่กระทบไทย เชื่อการลงทุนในเอเชียยังขยายตัวดี สสปน.เตรียมเปิดตัว “พาวิลเลี่ยนไทย” ในบีโอไอแฟร์ 2011
นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) จัดการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจ (CEO Forum) ขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน
การประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วโลกในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งในงานบีโอไอแฟร์ 2011 เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสอันดีที่ภาครัฐจะได้ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศด้านการลงทุน ยังเป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ทั้งไทยและต่างชาติ ตลอดจนชักชวนให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
ภายในงาน CEO Forum นี้ จะมีองค์ปาฐกที่เป็นผู้นำองค์กรระหว่างประเทศและผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทข้ามชาติชั้นนำและบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทย เช่น นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังค์ถัด, ผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่ม Minebea จากญี่ปุ่น และบริษัท Dow Chemical จากสหรัฐฯ รวมทั้ง นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทย
การประชุมครั้งนี้ นอกเหนือจากผู้บริหารระดับสูงจากบรรษัทข้ามชาติชั้นนำที่มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศไทยแล้ว ยังจะมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทขนาดใหญ่ของไทยและธนาคารดังอีกหลายแห่งเข้าร่วมด้วย
นางอรรชกา กล่าวด้วยว่า บีโอไอยังจะจัดการประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน ครั้งที่ 1 ขึ้น ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 เพื่อเป็นเวทีให้ผู้นำภาครัฐของไทยได้มีโอกาสหารือกับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนระยะ 5 ปีของประเทศไทย ข้อคิดเห็นที่ได้จากผู้บริหารชั้นนำระดับนานาชาติเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวางยุทธศาสตร์ของบีโอไอในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยในฐานะแหล่งรองรับการลงทุน
ด้าน นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน.กล่าวว่า การร่วมมือกับบีโอไอในการจัดงานประชุม HIA Meeting และ CEO Forum นับเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ส่งเสริมหน่วยงานราชการไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานไมซ์ระดับนานาชาติ และยังเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินการที่สำคัญภายใต้โครงการ “Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ซึ่ง สสปน.เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
โดยการเป็นเจ้าภาพร่วมกับบีโอไอในการจัดประชุมที่เป็นเวทีที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำของโลก และนักลงทุนชาวต่างประเทศได้พบปะกับผู้นำภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศไทยนั้น นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะตอกย้ำความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีความพร้อมสำหรับการจัดงานไมซ์ระดับโลกสู่สายตาผู้บริหารระดับสูงจากนานาประเทศ
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีความสำคัญในฐานะจุดหมายปลายทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ 4 ประการ คือ 1.บริการอย่างมืออาชีพสำหรับการจัดงานเชิงธุรกิจสำหรับผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ 2.โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก 3.ความหลากหลายของสถานที่จัดการประชุม ที่ตั้งอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ซึ่งพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ชะอำ รวมถึงอีก 4 สถานที่สำคัญได้แก่ เขาใหญ่, หาดใหญ่, สมุย, กาญจนบุรี และ 4.โอกาสทางธุรกิจมากมายที่จะเป็นการต่อยอดนำไปสู่การค้าและการลงทุน รวมถึงการสร้างรายได้ให้กับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
นายอรรคพล กล่าวด้วยว่า ไฮไลต์การเข้าร่วมงานบีโอไอแฟร์ 2011 ของ สสปน.คือ การเปิดตัว EXPO 2020 พาวิลเลียนเพื่อนำเสนอโครงการเสนอตัวประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 อย่างเต็มรูปแบบต่อประชาชน ภายใต้แนวคิดการจัดงาน “นิยามใหม่ของโลกาภิวัตน์-วิถีที่ยั่งยืน เพื่อโลกที่สมดุล” (Redefine Globalisation - Balance Life, Sustainable Living) โดยใช้พื้นที่จำนวน 2,000 ตารางเมตร นำเสนอภาพรวมของงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ประเทศไทยกับเวิลด์ เอ็กซ์โป และ เวิล์ด เอ็กซ์โป 2020 อยุธยา ตั้งเป้าผู้เข้าชมพาวิลเลียน กว่า 107,000 คน ตลอดระยะเวลา 16 วัน