xs
xsm
sm
md
lg

ดับกระแสความกังวลเงินเฟ้อพุ่ง “ยรรยง” ยันเป้าทั้งปีไม่เกิน 3.7%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ยรรยง” ดับกระแสความกังวลเงินเฟ้อพุ่งแรง ยันทั้งปีเป็นไปตามเป้าไม่เกิน 3.7% เหตุปัจจัยกระทบทั้งค่าแรงวันละ 300 บาท ขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี ยังเป็นแค่นโยบาย ไม่ได้เริ่มปฏิบัติ ส่วนปัจจัยหลักอย่างน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน ยังไม่หวือหวาจนคุมไม่ได้

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงยังยืนยันเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 2554 ว่า จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.2-3.7% แม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อให้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่กรอบนโยบาย ทั้งการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานวันละ 300 บาท หรือการปรับขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือน โดยขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อใด จึงไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการกดดันเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อในขณะนี้ มีอยู่ 2 ปัจจัย คือ ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน ที่จะมีผลต่อการขยายตัวของเงินเฟ้อโดยตรง โดยตามสมมติฐานราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบที่คาดการณ์ไว้ระดับ 78-88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบตลาดได้ปรับตัวขึ้นมา 111 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล แต่คาดว่าค่าเฉลี่ยทั้งปียังต่ำกว่าระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนตั้งสมมติฐานไว้ที่ 28.33 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบัน 29.67 บาท/เหรียญสหรัฐฯ

“2 ปัจจัยดังกล่าว มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อมากสุดในขณะนี้ และแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า ทำให้ราคานำเข้าน้ำมันไม่แพงมาก และยังช่วยให้การนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตเป็นสินค้าต้นทุนต่ำลง ซึ่งมีส่วนช่วยชดเชยกันไปได้ ส่วนราคาสินค้าในประเทศ ที่มองกันว่าจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อนั้น กระทรวงยังดูแลได้ และมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ก็มีมาตรการที่จะเข้ามาดูแลในส่วนนี้เช่นเดียวกัน จึงไม่น่าห่วงในเรื่องแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ” นายยรรยง กล่าว

นายยรรยง กล่าวว่า กระแสการตื่นตระหนกของหน่วยงานราชการ และนักวิชาการว่าเงินเฟ้อจะขยายตัวสูงเกินระดับเป้าหมายมาก เป็นสิ่งที่น่าห่วงมากกว่า เพราะจะส่งผลต่อจิตวิทยาของคนในประเทศ และจะสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ เหมือนกับกระแสตื่นตระหนกสินค้าน้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม จนทำให้เกิดการขาดแคลนขึ้นมา จากการกักตุนจริง ทั้งๆ ที่ปริมาณสินค้าก็มีเพียงพอต่อการบริโภค จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่า จะมีอัตราชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรกที่เงินเฟ้อสูงขึ้นแล้ว 3.56% โดยเงินเฟ้อไตรมาส 3 จะลดต่ำกว่าประมาณการณ์ที่คาดไว้ 3.6% และเงินเฟ้อเดือนก.ค. คาดว่าจะขยายตัว 3.5% เพราะราคาสินค้าเริ่มปรับตัวใกล้เคียงกับราคาแนะนำที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ รวมถึงการใช้มาตรการต่างๆเข้าไปดูแลเรื่องราคาสินค้า อย่างอาหารสำเร็จรูป ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศยังอยู่ที่ 25-35 บาท/ถุง น้ำตาลทราย ราคาในห้างค้าปลีก 23.50 บาท/กก.ตลาดทั่วไป 25-28 บาท/กก.เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น