เชนร้านหนังสือยังไปได้สวยในต่างจังหวัด “ร้านนายอินทร์” เดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ทุ่ม 70 ล้านบาท ผุดร่วม 30 สาขาในปีนี้ เจาะเข้าหัวเมืองใหญ่ เน้นเปิดในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก พร้อมเพิ่มกลุ่มนอนบุ๊คเพิ่มรายได้ หลังพบเทรนด์อีบุ๊คมาแรง มั่นใจสิ้นปีปิดรายได้ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโต 20%
นายระพี อุทกะพันธุ์ ผู้อำนวยการสายงานค้าปลีก บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ดูแลร้านหนังสือนายอินทร์ เปิดเผยว่า ธุรกิจเชนร้านหนังสือในปีนี้ มองว่ายังไปได้ดีอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัดยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ทั้งในหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรอง ขณะที่ในกรุงเทพฯนั้นอาจจะเริ่มมองหาทำเลที่จะเปิดร้านได้ยากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างโดยเฉพาะการเข้าไปเปิดร่วมกับศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการใหม่ๆ
ในส่วนของร้านหนังสือนายอินทร์ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งสิ้น 174 สาขาทั่วประเทศ มีเพียง 24 สาขาเท่านั้นที่เป็นแฟรนไชส์ ซึ่งมองว่าหลังจากนี้จะชะลอแผนเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบแฟรนไชส์ลง เนื่องจากลูกค้าอาจจะแข่งขันกับเชนรายใหญ่ยาก เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องมีสายป่านที่ยาวพอสมควร ดังนั้นจึงเน้นขยายสาขาโดยการลงทุนเองเป็นหลัก
โดยในปีนี้ใช้งบกว่า 60-70 ล้านบาท ในการเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 30 สาขา เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ภายในศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่าง เทสโก้โลตัส เฉลี่ยต่อสาขาลงทุน 2-5 ล้านบาท แล้วแต่พื้นที่ แต่ต้องมีขนาด 50 ตารางเมตรขึ้นไป คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดให้บริการทั้งสิ้น 194 สาขา
อย่างไรก็ตามในบางสาขาที่มีศักยภาพ ยังได้มีการเพิ่มพื้นที่ขายกลุ่มสินค้าประเภทนอนบุ๊คด้วย คิดเป็น 5% ของพื้นที่ขายทั้งหมด ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องเขียน สินค้าเพื่อสุขภาพ และเทคโนโลยี เป็นต้น คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในแต่ละสาขาได้มากขึ้น หลังจากมองว่าในอนาคตเทรนด์อีบุ๊คเข้ามา จำนวนพื้นที่วางหนังสือขายจะลดน้อยลงจึงได้นำกลุ่มนอนบุ๊คเข้ามาเสริมการขายทดแทน
นายระพี กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการตลาดหลังจากนี้ จะเน้นเรื่องโปรโมชั่น การร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายใหม่ๆขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา ทั้งนี้เพื่อต้องการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และสมาชิกเดิมให้เข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อบิลสูงขึ้น 10-15% จากฐานสมาชิกว่า 2 แสนราย โดยสิ้นปีนี้มั่นใจว่าร้านนายอินทร์จะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% ตามแผนที่วางไว้
นายระพี อุทกะพันธุ์ ผู้อำนวยการสายงานค้าปลีก บริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด ดูแลร้านหนังสือนายอินทร์ เปิดเผยว่า ธุรกิจเชนร้านหนังสือในปีนี้ มองว่ายังไปได้ดีอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่ต่างจังหวัดยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ทั้งในหัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรอง ขณะที่ในกรุงเทพฯนั้นอาจจะเริ่มมองหาทำเลที่จะเปิดร้านได้ยากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังพอมีอยู่บ้างโดยเฉพาะการเข้าไปเปิดร่วมกับศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการใหม่ๆ
ในส่วนของร้านหนังสือนายอินทร์ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งสิ้น 174 สาขาทั่วประเทศ มีเพียง 24 สาขาเท่านั้นที่เป็นแฟรนไชส์ ซึ่งมองว่าหลังจากนี้จะชะลอแผนเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบแฟรนไชส์ลง เนื่องจากลูกค้าอาจจะแข่งขันกับเชนรายใหญ่ยาก เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องมีสายป่านที่ยาวพอสมควร ดังนั้นจึงเน้นขยายสาขาโดยการลงทุนเองเป็นหลัก
โดยในปีนี้ใช้งบกว่า 60-70 ล้านบาท ในการเตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 30 สาขา เน้นต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ ภายในศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่าง เทสโก้โลตัส เฉลี่ยต่อสาขาลงทุน 2-5 ล้านบาท แล้วแต่พื้นที่ แต่ต้องมีขนาด 50 ตารางเมตรขึ้นไป คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดให้บริการทั้งสิ้น 194 สาขา
อย่างไรก็ตามในบางสาขาที่มีศักยภาพ ยังได้มีการเพิ่มพื้นที่ขายกลุ่มสินค้าประเภทนอนบุ๊คด้วย คิดเป็น 5% ของพื้นที่ขายทั้งหมด ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องเขียน สินค้าเพื่อสุขภาพ และเทคโนโลยี เป็นต้น คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายในแต่ละสาขาได้มากขึ้น หลังจากมองว่าในอนาคตเทรนด์อีบุ๊คเข้ามา จำนวนพื้นที่วางหนังสือขายจะลดน้อยลงจึงได้นำกลุ่มนอนบุ๊คเข้ามาเสริมการขายทดแทน
นายระพี กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการตลาดหลังจากนี้ จะเน้นเรื่องโปรโมชั่น การร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายใหม่ๆขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา ทั้งนี้เพื่อต้องการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และสมาชิกเดิมให้เข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาพบว่า ยอดการใช้จ่ายของลูกค้าต่อบิลสูงขึ้น 10-15% จากฐานสมาชิกว่า 2 แสนราย โดยสิ้นปีนี้มั่นใจว่าร้านนายอินทร์จะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโต 20% ตามแผนที่วางไว้