xs
xsm
sm
md
lg

“ไมนัส-ซัน” รุกตลาดครีมกันแดดแมส สยายปีก ตปท. นำร่องมาเลเซีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แพนราชเทวี” เปิดแผน “ไมนัส-ซัน” รุกตลาดครีมกันแดดแมส ขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด ลุยซีอาร์เอ็ม สยายปีกตลาดต่างประเทศประเดิมมาเลเซีย หวังทั้งปีดันรายได้โต 25%

นายพรชาย พิริยบรรเจิด กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพน ราชเทวี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดผลิตภัณฑ์กันแดด “ไมนัส-ซัน” ว่า ครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯวางแผนให้ “ไมนัส-ซัน” ขยายตลาดระดับแมสอย่างจริงจัง หลังจากที่ในตลาดระดับโปรเฟสชันนอลนั้นอยู่ตัวแล้วและมียอดขายมากกว่า 120 ล้านบาทหรือส่วนแบ่งกว่า 26% ในตลาดโปรฯที่มีมูลค่ากว่า 455 ล้านบาท จากการทำตลาดมา 9 ปี

ทั้งนี้จะขยายตลาดช่องทางโมเดิร์นเทรดมากขึ้น เช่นเดือนหน้าจะเข้าเทสโก้โล ตัสและการเพิ่มเอสเคยูในร้านท้อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต จากเดิมช่องทางหลักคือที่ วัตสัน บิ๊กซี บู๊ทส์ เป็นต้น ซึ่งมีสินค้าคู่แข่งเฉลี่ย 3-4 แบรนด์ในช่องทางนี้ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 50% จากเดิม 35% ในโมเดิร์นเทรด เน้นการทำซีอาร์เอ็มมากขึ้น ผ่านเฟซบุ๊ค การแจกสินค้าตัวอย่างกว่า 100,000 ชิ้น ด้วยงบการตลาด 20 ล้านบาท จากทั้งปี 40 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่ใช้ 20 ล้านบาท

ในช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด โดยเฉพาะร้านขายยาแบบเดิมนั้น ก็ยังเป็นช่องทางที่ดีอยู่ เพียงแต่ว่ายอดขายในตลาดรวมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจจะน้อยลง เนื่องจากว่า โครงการบัตรทองที่ทำให้คนเข้าสถาบันพยาบาลมากขึ้น แทนที่จะซื้อยาเอง อีกทั้งเรื่องการเข้มงวดร้านขายยาที่ต้องมีเภสัชกรประจำ ทำให้ยอดขายช่องทางนี้หายไปบ้างเหมือนกัน

นอกจากนั้นจะออกสินค้าใหม่อีกในไตรมาสที่สามและสี่ เช่น การเพิ่มขนาด 45 กรัม จากเดิมมีขนาด 25 กรัม และการออกสินค้าเจลล้างหน้าไมนัสซึ่งเป็นการรีลอนช์ใหม่เพื่อให้สอดรับกับครีมกันแดดที่จะรุกตลาดแมส รวมทั้จะสร้างฐานตลาดให้ลูกค้าใช้ประจำเป็น 45% จากเดิม 30% ของลูกค้าบริษัทฯ และกลุ่มที่ใช้ไม่บ่อยจากสัดส่วน 70% จากเดิม 30%

ตลาดรวมผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดในไทยนั้น แบ่งเป็น กลุ่มผิวกาย มูลค่า 530 ล้านบาท กลุ่มผิวหน้ามูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งในกลุ่มผิวหน้านั้น แบ่งเป็นเซ็กเม้นท์โปรเฟสชันนอล มูลค่า 455 ล้านบาท และเซ็กเม้นต์แมสมูลค่า 345 ล้านบาท โดยที่บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะทำส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5% ในกลุ่มแมสที่มีมูลค่า 345 ล้านบา ทภายในช่วง 1 ปีนับจากนี้

สำหรับตลาดต่างประเทศนั้นจะเน้นกลุ่มอาเซียนก่อน โดยได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายแล้วในมาเลเซียจะขายผ่านร้านขายยารวมกว่า 400 จุดในมาเลเซีย ซึ่งกลยุทธ์ตลาดคือ จะเจาะร้านขายยาและสร้างภาพลักษณ์เป็นสินค้าโปรเฟสชันนอลหรือเวชสำอางค์เหมือนบุกตลาดไทยเริ่มแรก เนื่องจากตลาดระดับแมสนั้นแข่งขันรุนแรง

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีแบรนด์คู่แข่งรายหนึ่งทำตลาดระดับโปรอยู่เหมือนกัน ได้ทยอยเลิกทำตลาดไปแล้ว ส่วนประเทศต่อไปคือ สิงคโปร์ เวียดนาม และมีแผนจะรุกตลาดยุโรปแลอเมริกาด้วย หลังจากนี้อีก 2-3 ปี ส่วนแคมเปญ “แจกโชครับร้อน” จบลงไปแล้ว ได้รับการตอบรับอย่างดี มีผู้ส่งชิ้นส่วนเข้าร่วมกว่า 15,000 ชิ้นส่วน ส่งผลให้ยอดขายของไมนัส-ซัน ในช่วงไตรมาสสองมียอดขายมากถึง 39ล้านบาท เติบโต 26% ซึ่งตอกย้ำความมั่นใจที่จะรุกตลาดแมสด้วย โดยปีนี้ไมนัส-ซันจะเติบโตรวม 25%
กำลังโหลดความคิดเห็น