“พาณิชย์” เดินหน้างานแสดงสินค้า “เมดอินไทยแลนด์ 54” วันที่ 13-17 ก.ค.นี้ “ยรรยง” วิ่งหางบลุยรถเข็นธงฟ้า เผยยังห่างเป้า 100 คัน เพราะต้องลงทุนคันละ 2 หมื่นบาท
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการส่งออกเปิดรับสมัครผู้ผลิตและผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน “เมดอินไทยแลนด์ 2554” ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2554 งานดังกล่าว นับเป็นงานใหญ่ที่จะรวมพลังผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการทุกกลุ่มอุตสาหกรรมของไทย และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ SMEs มาร่วมโชว์ศักยภาพ สร้างโอกาสทางธุรกิจและเตรียมพร้อมก้าวสู่ตลาดโลก
สำหรับงาน “เมดอินไทยแลนด์ 2554” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2554 บนพื้นที่กว่า 27,000 ตารางเมตร ที่อาคาร 5-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานเมดอินไทยแลนด์ 2554 จะเป็นการจัดแสดงสินค้าและบริการมาตรฐานส่งออกกว่า 1,000 คูหา ครอบคลุม ครบครัน ทุกกลุ่มสินค้าและบริการจากทุกอุตสาหกรรม อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ของขวัญ ของใช้และของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องหนังและรองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์
ส่วนผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ธุรกิจบริการ เช่น สปา นวดแผนไทย แฟรนไชส์ และสิ่งพิมพ์ ธุรกิจโลจิสติกส์ ฯลฯ และคาดว่า จะมีนักธุรกิจและผู้ซื้อจากทั้งในและต่างประเทศเข้าชมงานกว่า 100,000 คน
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดทำโครงการรถเข็นธงฟ้า ขายอาหารปรุงสำเร็จจานละไม่เกิน 25 บาท เพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชนนั้น ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ค้ารถเข็นธงฟ้าแล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งกรมการค้าภายในได้ประสานงานไปยังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการจัดหาสถานที่สำหรับรถเข็นธงฟ้าในแหล่งชุมชนทั่วกรุงเทพฯ แล้ว
นอกจากนี้ ได้เร่งให้ความช่วยเหลือในการลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารมิตรธงฟ้า และรถเข็นธงฟ้า เพื่อให้สามารถขายอาหารปรุงสำเร็จได้ในราคาจานละไม่เกิน 25 บาทด้วย
นายวิชัย โกอุดมวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มีรถเข็นธงฟ้าขายอาหารราคาถูกแล้วประมาณ 30 คัน จากเป้าหมาย 100 คัน ซึ่งกระจายอยู่ตามแหล่งชุมชนใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ เช่น รังสิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คลองเตย
สำหรับสาเหตุที่ยังไม่ครบตามเป้าหมาย เพราะติดปัญหาขาดแคลนงบประมาณดำเนินการ โดยรถเข็นธงฟ้า 1 คัน จะต้องลงทุนประมาณ 20,000 บาท โดยเร็วๆ นี้ จะหารือกับ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการหางบประมาณเพิ่มเติมและเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ มาประชุมเพื่อขอความร่วมมือเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
