xs
xsm
sm
md
lg

ถังแตก! รัฐหมดเงินอุ้มราคาน้ำมัน ดีเซลขึ้นพรวดทะลุ 30 บาทแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนน้ำมันฯ ใกล้ถังแตก เหลือกระแสเงินสดแค่ 363 ล้านบาท บอร์ดยื้อกู้เงินอุ้มดีเซล อ้างยังมีเวลา แถม 1 ก.ค.นี้ ปรับราคาแอลพีจีจะมีเงินไหลเข้าเดือนละ 120 ล้าน ยังพยุงได้อีก ปั๊มต่างชาติ คาลเท็กซ์ เอสโซ่ ปิโตรนาส ไม่รอ ขึ้นดีเซลทะลุ 30 บาทแล้ว ปตท.-บางจาก กัดฟันตรึงต่อ รอลุ้นที่ประชุม กบง.วันนี้ เคาะอุดหนุนเพิ่มหรือไม่ เชลล์หนุนใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแทนการตรึงน้ำมันระยะยาว

นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงสถานะกองทุนน้ำมันฯ ที่ยังมีกระแสเงินสดสุทธิอยู่ 363 ล้านบาท โดยที่ประชุมยังไม่ได้พิจารณาแผนการกู้เงิน 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยังคงมีเวลาที่จะติดตามราคาน้ำมันตลาดโลก หากน้ำมันดิบดูไบเกิน 110 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล อาจจำเป็นจะต้องกู้ นอกจากนี้ ยังเตรียมปรับราคาแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม 3 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) วันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มอีกเดือนละ 120 ล้านบาท

“เรายังมีเวลา ขณะนี้น้ำมันตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง เวสต์เทกซัส มาอยู่ที่เพียง 97 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากเดิมมากกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และการลอยตัวภาคอุตสาหกรรมทันที 3 บาทต่อ กก.นั้น จะทำให้สถานะกองทุนฯ เราดีขึ้นมาอีก ดังนั้น หากน้ำมันแพงยังมีเวลา เดี๋ยวก็มีรัฐบาลใหม่มาแล้ว แต่เราก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เตรียมพร้อม เพราะบอร์ดกองทุนฯ จะนัดหารืออีกครั้งวันที่ 12 ก.ค.นี้” นายณอคุณ กล่าว

นายณอคุณ กล่าวว่า วันนี้ (15 มิ.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งจะได้พิจารณาถึงค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันว่าจะมีการพิจารณาอุดหนุนเพิ่มหรือไม่ ซึ่งยอมรับว่า ขณะนี้ผู้ค้าน้ำมันต่างชาติได้ขึ้นราคาไปแล้ว แต่ล่าสุดราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มปรับลดลง

นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ยังไม่มีการอนุมัติการกู้เงินแต่อย่างใด เนื่องจากสถานะกองทุนน้ำมันฯ ยังมีเสถียรภาพที่สามารถดูแลราคาน้ำมันได้อยู่ โดยสถานะเงินกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 10 มิ.ย.2554 มีเงินคงเหลือสุทธิจำนวน 280 ล้านบาท ส่วนการประชุมกบง. คาดว่าจะมีการพิจารณาเพื่อลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ค้าน้ำมันเอกชนได้ปรับราคาขายปลีกดีเซลขึ้นไปแล้ว มีผลตั้งแต่วานนี้ (14 มิ.ย.) โดยเอสโซ่ ปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 40 สตางค์/ลิตร ราคาเท่ากับคาลเท็กซ์ และปิโตรนาส ลิตรละ 30.39 บาท ส่วนเชลล์ ราคาอยู่ที่ 30.49 บาท/ลิตร ขณะที่ปตท.และบางจาก ยังตรึงไว้ที่ 29.99 บาท/ลิตร ซึ่งค่าการตลาดของปตท.และบางจากเหลือเพียง 40 สตางค์ต่อลิตรเท่านั้น ปตท.และบางจากจึงขอรอดูกบง.วันนี้ว่าจะอุดหนุนเพิ่มหรือไม่อย่างไร รวมถึงทิศทางตลาดโลกด้วย

นางพิศวรรณ อัชนะพรกุล ประธานกรรมการบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีภาระในการชดเชยจากการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม และเอ็นจีวี ซึ่งการตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ภายใต้แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ติดลบมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการตรึงราคาพลังงาน ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และยังส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในระยะยาว

“การตรึงราคาน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลาและวัตถุประสงค์ที่แน่นอน เพื่อให้การบริหารกองทุนฯ จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืน ในความเห็นส่วนตัว การตรึงราคาน้ำมันดีเซลควรต้องคำนึงให้มาก เพราะสุดท้ายประชาชนต้องเป็นผู้รับภาระนั้น” นางพิศวรรณ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น