“ยิ่งลักษณ์” หาเสียงครั้งแรกตลาดบางกะปิ สัญญาประชาชนเร่งแก้ปัญหาปากท้อง-ราคาสินค้าแพง ยันได้เป็นรัฐบาลเมื่อไรยกเลิกขายไข่ไก่ชั่งกิโลทันที ชี้ ไม่มีประโยชน์กับประชาชน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อม นายวิชาญ มีนชัยนันท์ แกนนำพรรค นายโอฬาร ไชยประวัติ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ได้ลงพื้นที่บริเวณตลาดบางกะปิ เพื่อช่วย นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 หาเสียง
โดยการลงพื้นที่วันนี้ เป็นการหาเสียงครั้งแรกของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ระหว่างการหาเสียง น.ส. ยิ่งลักษณ์ ได้ทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าตลาดบางกะปิอย่างเป็นกันเอง พร้อมชูนิ้วชี้ เป็นสัญลักษณ์ ของหมายเลข 1 โดยมีประชาชนเข้ามารุมสวมกอดขอถ่ายรูป และมอบดอกไม้เป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศช่วงเช้าภายในตลาดบางกะปิครึกครื้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย
ทั้งนี้ ระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินหาเสียงภายในตลาดร้านค้าขายไข่ไก่ ได้สอบถามราคา และต้นทุนของราคาสินค้าอย่างละเอียด ซึ่งตลอดการลงพื้นที่มีพ่อค้าแม่ค้าได้ชูป้ายเขียนข้อความ ระบุว่า “ยิ่งลักษณ์แจกความสุขให้ทุกพื้นที่ ช่วยปลดหนี้ให้ทุกคน” “ขอสนับสนุนยิ่งลักษณ์แก้ปัญหาของแพง” และ “ยิ่งลักษณ์ สู้ๆ” พร้อมทั้งตะโกนเบอร์ 1 ทุกช่วงที่ นางสาว ยิ่งลักษณ์ เดินผ่าน ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กองเชียร์ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเข้ามาทักทายเป็นส่วนมากด้วย
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ปราศรัยบนรถติดเครื่องขยายเสียง ว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ให้การต้อนรับอย่างดี ตนมาหาเสียงเป็นที่นี่เป็นที่แรก เพื่อมารับฟังปัญหา จึงขอโอกาสของคนที่นี้ให้โอกาส นายภักดีหาญส์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทยด้วย
ภายหลังพบปะกับประชาชนแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า การลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ที่ตลาดบางกะปิ เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชน หลังจากที่พรรคเพื่อไทยออกนโยบายเพื่อแก้ปัญหาที่ประชาชนต้องการ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง สินค้าราคาแพง ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องเร่งแก้ไขอย่างเป็นระบบ ส่วนเรื่องยุทธศาสตร์หาเสียงหลังจากนี้ ตนจะเร่งลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อพบกับกลุ่มต่างๆ และเก็บข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนำไปแก้ปัญหา
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวเสริมว่า ภารกิจแรกที่เราให้ความสำคัญ และต้องเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ภาพรวมที่ต้องแก้ไข จะดูในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ทั้งค่าขนส่ง ค่าน้ำมัน หรือการกระจายสินค้าที่ไม่ต้องผูกขาดแค่รายใดรายหนึ่ง พร้อมทั้งดูในเรื่องการขนส่งให้เป็นประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามว่า เสียงตอบรับของประชาชนเป็นอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จากการที่เราได้ลงพื้นที่ 2 วัน ประชาชนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี รู้สึกดีใจที่พี่น้องให้โอกาสพรรคเพื่อไทยเพื่อเข้ามาร่วมแก้ไขบ้านเมืองอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกโครงการขายไข่ไก่ชั่งกิโลกรัม เพราะไม่เป็นประโยชน์ และกลับไปใช้การขายรูปแบบเดิม ขณะที่นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรื่องไหนที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็จะคงไว้ เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน แต่หากนโยบายไหนไม่ดี ก็จำเป็นต้องยกเลิก
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ยืนยันว่า คดียึดทรัพย์ไม่ถือเป็นคดีทางอาญา ซึ่ง กกต.มีหน้าที่ในการตรวจคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งว่า ถูกต้อง และครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์หรือไม่
ทั้งนี้ หากจะเข้าข่ายเป็นคดีอาญา ก็ต่อเมื่อว่าศาลตัดสินให้มีการให้ความเท็จ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีทางอาญา และหากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ก็จะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาให้ดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องร้องเรียนในการวางตัวให้เป็นกลางของ กกต.จังหวัดนั้น
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนเข้ามาบ้าง แต่ทาง กกต.กลาง ก็ได้มีการตรวจสอบ และได้กำชับในเรื่องของการวางตัวให้เป็นกลางแล้ว นอกจากนี้ นายอภิชาต กล่าวว่า ในวันนี้ตนจะลงนามในมติในเรื่องของวงเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ประชุม กกต.มีความเห็นว่าควรกำหนดวงเงินให้อยู่ที่ 1,500,000 บาท ต่อคน และจะมีผลบังคับใช้ให้เร็วที่สุด
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กรณีคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมานั้น แม้มีข้อมูลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะถูกอายัดทรัพย์ไปด้วย แต่ไม่ถือว่าเป็นการพิพากษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือจะมีความผิดด้วยแต่อย่างใด เพราะต้นทางคดีเป็นการพิพากษา พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ทรัพย์สินที่ต้องถูกยึดตามคำพิพากษานั้น อาจไปอยู่ในครอบครองบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยเท่านั้นเอง
ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า คุณสมบัติการสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น ไม่น่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 174(4) ประกอบมาตรา 102(7) ที่ระบุว่า ผู้สมัคร ส.ส.ต้องไม่เคยถูกพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ