นายก ส.ผู้เลี้ยงไก่ไข่ แจงปริมาณผลผลิตลดลงช่วงสั้น มึนราคาหน้าฟาร์มเท่าเดิม แต่ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น ระบุ ไข่เบอร์ 3 ฟันลูกค้าฟองละ 3.50-3.60 บาท จี้ กรมการค้าภายในเข้าไปดูแล “เจ๊วา” ชงแนวทางแก้ไข่ไก่แพง เข้าที่ประชุม ครม.สัปดาห์นี้ เพื่อชะลอ-งดส่งออก 2 เดือน
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ปริมาณไข่ไก่ในขณะนี้ ลดลงประมาณร้อยละ 15-20 แต่ไม่น่าจะเป็นเหตุผลของการขาดแคลน โดยไข่ไก่ที่ลดลง เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง มีโรคระบาด ก็ทำให้ไข่ออกมาลดลง แต่จากที่รัฐบาลได้เปิดนำเข้าแม่ไก่เสรี ก็จะเริ่มผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม 2554 นี้ และปริมาณไข่ก็จะออกมาตามปกติใน 2-3 เดือนข้างหน้า
“ราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มเบอร์ 3 ในขณะนี้อยู่ที่ 2.90-3.10 บาท แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ราคาขายปลีก มีราคาสูงผิดปกติ โดยราคาในตลาดสดอยู่ที่ 3.50-3.60 บาทต่อฟอง ซึ่งภาครัฐโดยเฉพาะกรมการค้าภายในควรเข้ามาดูแล เพื่อไม่ให้เกิดการค้ากำไรเกินควรและเอาเปรียบผู้บริโภค”
อย่างไรก็ตาม ทิศทางราคาไข่ไก่นั้น คงจะไม่ลดลง เพราะต้นทุนวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้นมาก เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่หากเปรียบเทียบราคาไข่ไก่กับอาหารประเภทอื่น ก็ยังนับว่าเป็นสินค้าที่มีราคาถูก
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาไข่ไก่ขาดแคลนและราคาแพง โดยให้ชะลอการส่งออกออกไปก่อนอย่างน้อย เป็นเวลา 2 เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2554 หลังจากผลผลิตลดลงวันละ 3,000,000 ฟอง และให้โรงงานผลิต รายงานกำลังการผลิตเป็นประจำทุกวัน โดยรัฐบาลจะพิจารณาช่วยในเรื่องการลดต้นทุนอาหารสัตว์ให้
สำหรับราคาเนื้อสุกร หรือเนื้อหมูนั้น ยังอยู่ในราคาเพดานและเป็นไปตามฤดูกาลที่ปริมาณเนื้อหมูจะน้อยลงในช่วงหน้าร้อน นอกจากนี้ สินค้าชนิดอื่นๆ นั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการอนุมัติให้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่ราคาสินค้าที่มีการปรับเพิ่มขึ้นนั้น เชื่อว่า จะไม่กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศอย่างแน่นอน โดยมั่นใจว่า จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ร้อยละ 3.2-3.7